14 คำแนะนำดีๆ สำหรับคนเริ่มต้นหางาน ให้ได้งานที่ใช่

กระบวนการหางานและสมัครงานมีความซับซ้อนมากกว่าการค้นหาตำแหน่งงานว่างบนเว็บไซต์และการส่งใบสมัครไปยังบริษัทต่างๆ การหางานที่เหมาะสมและสร้างความประทับใจให้กับผู้ว่าจ้าง รวมถึงการเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์เป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม วันนี้เรามี 14 คำแนะนำดีๆ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการค้นพบงานที่ใช่ และได้งานที่ตรงกับความต้องการอย่างที่คุณปรารถนา

รู้เป้าหมายของการทำงานและการเลือกอาชีพ

ตอบตัวเองให้ได้เป็นอย่างแรกว่าอยากทำงานอะไร อาชีพอะไร นี่เป็นสิ่งที่สำคัญในการเข้าสู่โลกของการทำงานในฐานะพนักงานบริษัท หรือ เปลี่ยนงาน ลองฟังความคิดเห็นจากคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว อาจารย์ ผู้แนะนำด้านอาชีพ หรือเพื่อนร่วมงานที่สนิทๆ ทำให้แน่ใจว่าคุณมีเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจนและจับต้องได้ ศักยภาพและทักษะแบบไหนที่จำเป็นต่อการบรรลุเป้าหมายนั้น ทุกข้อมูลเหล่านี้จะทำให้คุณสามารถหางานในตำแหน่งที่ถูกต้องและตรงใจได้มากขึ้น  

วางแผนล่วงหน้า

วางแผนและจัดตารางในการหางานล่วงหน้า กำหนดว่าในแต่ละวันจะเริ่มหางานจากแหล่งไหนบ้าง หรือพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญที่อยู่เครือข่ายอาชีพที่ตัวเอง สร้างและอัพเดทรายละเอียดส่วนตัวลงบนเว็บไซต์ส่วนตัว สร้างตารางเพื่อบันทึกว่าได้ทำการส่งใบสมัครงานไปที่ไหนบ้างและมีนัดสัมภาษณ์เมื่อใดบ้าง นอกจากนี้แนะนำให้สร้างอีเมลแยกระหว่างอีเมลส่วนตัวและอีเมลที่ใช้ในการสมัครงานเพื่อให้ดูมีความเป็นทางการมากยิ่งขึ้น 

เตรียมเนื้อหาที่จะใส่ในเรซูเม่และการเขียนแนะนำตัว

เตรียมเนื้อหาและรายละเอียดส่วนตัวให้พร้อมในการสมัครงาน และไม่ลืมที่จะสอบถามจากเพื่อน ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน หรือ ผู้แนะนำอาชีพเพื่อรับความช่วยเหลือในการตรวจเรซูเม่และคำแนะนำตัวว่ามีบกพร่องส่วนใดที่ต้องได้รับการแก้ไขหรือไม่ ผู้หางานหลายๆคนเลือกที่จะใช้บริการผู้เชี่ยวชาญในการเขียนและออกแบบเรซูเม่เพื่อให้ดูมีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น   

ใช้ทุกช่องทางที่มีในการค้นหางาน

ลำพังใช้เพียงกำลังของตัวเองในการหางานออนไลน์อาจจะทำได้ช้าและไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งในปัจจุบันมีอีกหลายช่องทางที่ช่วยผู้หางานสามารถหางานได้มากขึ้นและตรงมากขึ้น อาทิ การสอบถามจากคนรู้จักที่ทำงานอยู่ในบริษัทที่ตนสนใจ การเข้าร่วมงาน Job Fair การค้นหาจากสื่อสังคมออนไลน์ รวมทั้งการฝากเรซูเม่ไว้กับบริษัทจัดหางานที่มีคุณภาพ และในปัจจุบันก็ยังมีเว็บไซต์ที่บริษัทต่างๆใช้ในการหาพนักงานซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการอัพเดทอยู่อย่างสม่ำเสมออีกด้วย  

ปรับเรซูเม่ให้เหมาะสมกับงานที่ต้องการสมัคร

ปรับรูปแบบของใบสมัครงานหรือเรซูเม่ให้เข้ากับตัวงานที่ต้องการสมัคร โดยศึกษาตัวบริษัทและรายละเอียดของงานให้ถ่องแท้ และหลังจากนั้นให้ใส่ข้อมูลที่จำเป็นและเหมาะกับผู้ตรวจสอบที่อ่านเนื้อหา โดยเฉพาะการใส่ทักษะ และ ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องเป็นผลดีกับการพิจารณาคุณสมบัติมากขึ้น ผู้บริหารที่ทำหน้าที่จ้างคนในแต่ละวันมีจำนวนเรซูเม่ที่ต้องอ่านนับไม่ถ้วน ดังนั้นหากเราสามารถสรุปใจความสำคัญและเลือกใส่เฉพาะข้อมูลที่จำเป็น ก็จะทำให้ผู้ตรวจสอบพิจารณาได้ง่ายขึ้นและรวดเร็วมากขึ้น 

เก็บข้อมูลของบริษัทที่สนใจ

เมื่อเจองานที่สนใจแล้ว การค้นคว้าหาข้อมูลรายละเอียดของบริษัทที่เราต้องการสมัคร จะทำให้เราเข้าใจวัฒนธรรมองค์กรได้ดีขึ้น รวมทั้งสวัสดิการ เงินเดือน สินค้าบริการ และสภาพแวดล้อมในการทำงานได้อีกด้วย 

ยื่นใบสมัครด้วยความมั่นใจ

ยื่นใบสมัครงานไปที่บริษัทที่คุณสนใจ ถึงแม้ว่ารายละเอียดและคุณสมบัติของตำแหน่งที่สนใจ อาจจะไม่ตรงกับคุณสมบัติของเราทั้งหมด แต่ผู้รับสมัครส่วนใหญ่ก็ยังให้ความสำคัญกับพนักงานที่มีแรงบันดาลใจ และความพยายามในการเรียนรู้ปรับตัวระหว่างการทำงานได้อย่างรวดเร็ว  

สอบถามและเก็บข้อมูลจากผู้ที่มีประสบการณ์ในงานที่เราสนใจสมัคร

หากเรามีบุคคลที่เกี่ยวข้องและมีประสบการณ์ในงานรวมทั้งบริษัทที่เราสนใจที่เราสามารถขอคำปรึกษาและพูดคุยได้ ก็อย่าได้ลังเลที่จะเข้าหา เพราะบุคคลเหล่านี้สามารถให้คำแนะนำและตรวจสอบความเข้ากันได้ระหว่างตัวงานและตัวของผู้สมัครได้เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ดีขึ้น หรือแม้แต่หากมีความสัมพันธ์ที่ดับคนวงในก็สามารถแนะนำผู้ดูแลตำแหน่งที่เราสนใจได้อีกด้วย 

ตั้งใจทำงานปัจจุบันอย่างเต็มที่ไม่มีบกพร่อง

ถ้าหากคุณกำลังหางานแต่ยังไม่ออกจากงานปัจจุบัน คุณไม่ควรให้ความใส่ใจการหางานใหม่มากกว่าการทำงานหลักที่ทำอยู่ การตั้งใจทำงานทุกๆงานที่มีเป็นอีกหนึ่งหนทางในการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีของเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างานในบริษัทเดิม และยังเป็นการแสดงความเป็นมืออาชีพที่สามารถใช้เป็นการอ้างอิงที่ดีที่สามารถนำพาไปสู่โอกาสใหม่ๆในอนาคตได้อีกด้วย 

สร้างเครือข่ายในแวดวงที่เราสนใจอย่างสม่ำเสมอ

การพูดคุยและสร้างความสัมพันธ์กับคนในวงการทั้งในรูปแบบออนไลน์และความสัมพันธ์ส่วนตัวผ่านโอกาสที่มีอยู่มากมายในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นงานสัมมนา งานสังคม งานอีเวนต์ และคอมมูนิตี้ออนไลน์ต่างๆ แสดงออกให้คนเหล่านั้นรู้ว่าคุณกำลังหางานอยู่เผื่อว่าคนเหล่านั้นจะมีโอกาสดีๆที่พร้อมยื่นให้คุณโดยที่คุณอาจไม่ได้คาดหวังเอาไว้ก็เป็นได้ 

ระบุและยกตัวอย่างทักษะเด่นๆของตัวเองออกมาได้

คนส่วนใหญ่มักจดจำเรื่องราวและข้อเท็จจริงที่แตกต่างหรือโดดเด่นที่สามารถจดจำได้ง่าย ในใบสมัครหรือเรซูเม่จึงควรทำไฮไลท์เด่นหรือไม่ใส่รายละเอียดที่ยิบย่อยไม่จำเป็นลงไป และสามารถใช้เทคนิค STAR ให้เป็นประโยชน์ในการเล่าเรื่อง (Situation – Task –  Action – Result)

มีการเตรียมพร้อมสัมภาษณ์อย่างสมบูรณ์แบบ

เก็บคำถามที่เป็นไปได้ที่จะถูกถามเวลาสัมภาษณ์ เตรียมคำตอบเอาไว้ล่วงหน้า และ ซักซ้อมคำตอบเหล่านั้นก่อนถึงวันสัมภาษณ์ โดยเราสามารถซักซ้อมและเตรียมคำตอบกับเพื่อนหรือผู้ใหญ่ที่สามารถให้คำแนะนำกับเราได้ เมื่อเรามีการเตรียมตัวที่ดี จะทำให้เรามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นและรู้สึกไม่เกร็งเมื่อถึงวันสัมภาษณ์จริง  

มีการ Follow up และคอยติดต่อกับผู้ประสานงานของบริษัทที่เราสนใจ

หลังจากที่เสร็จสิ้นการไปสัมภาษณ์งานมาเรียบร้อยแล้ว ไม่ควรพลาดที่จะส่งข้อความหรืออีเมลขอบคุณกลับไปหาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ หากเวลาผ่านไปเป็นสัปดาห์แล้วแต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ คุณสามารถติดต่อกับผู้ประสานงานผ่านทางโทรศัพท์หรือทางอีเมลได้เพื่อแสดงถึงความกระตือรือร้นและความสนใจที่จะทำงาน แต่ในระหว่างนี้คุณก็สามารถค้นหางานอื่นเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาได้  

หมั่นพัฒนาทักษะที่มีและทักษะใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา

เมื่อคุณเริ่มงานใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วหรือกำลังอยู่ระหว่างหางานใหม่ การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด โลกยุคใหม่ที่คุณสามารถหาความรู้และเพิ่มพูนประสบการณ์ได้ตลอดเวลา โลกยุคใหม่ที่หลายๆสิ่งหลายๆอย่างไม่เหมือนเดิมอยู่ทกวัน การหาความรู้ใหม่ๆจะทำให้ในอนาคตของคุณสดใสมากยิ่งขึ้นและมีตัวเลือกในการทำงานมากขึ้นอีกด้วย อาทิ การเข้าร่วมอบรมออนไลน์ หรือ การอ่าน Blog ติดตามข่าวสารอยู่เสมอ

ที่มา :https://pasona.co.th/