เชื่อว่าหลายๆ คนก่อนสัมภาษณ์งานจริงๆ คงมีความกังวลกันทุกคน ไม่ว่าจะสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษหรือสัมภาษณ์เป็นภาษาไทย และเราควรจะเตรียมความพร้อมอย่างไร? เมื่อต้องเจอกับคำถามต่างๆ ที่เราอาจจะคาดเดาไม่ถูก วันนี้ทางเพจจะมาช่วยเพื่อนๆ เตรียมความพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษกันการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์การสัมภาษณ์งานกับชาวต่างชาติไม่ว่าจะเป็น ฝรั่ง หรือ เอเชีย สิ่งที่ผู้สัมภาษณ์ (interviewer) คาดหวังและมองหาจากผู้ถูกสัมภาษณ์ (candidate) คือSmart and Professional look=การแต่งกายที่สุภาพตามแบบธุรกิจสากลให้เกียรติสถานที่ทำงาน และ ผู้สัมภาษณ์Confidence= ความมั่นใจ บุคลิกภาพ และ ที่สำคัญมากๆคือแววตาครับเดินให้สง่ากระชับกระเฉงแววตามุ่งมั่นเวลาพูดให้สบตาเข้าไปในแนวตาของผู้สัมภาษณ์เพื่อสื่อให้ถึงความจริงใจและมุ่นมั่นSkill and work experience= ความสามารถ และ ประสบการณ์ของเราครับ ซึ่งข้อนี้แอดมินอยากให้เพื่อนๆRole play หรือเป็นการณ์แสดงบทบาทสมมุติเป็น Sale ที่จะพรีเซนต์ขายตัวเองให้บริษัทเกิดความชอบเรา อยากที่จะจ้างเรา ตามค่าจ้างที่เราร้องขอครับ9คำถามยอดฮิตที่เรามักจะถูกสัมภาษณ์ (interview)1. Tell me a little bit about yourself.– บอกฉันสักเล็กน้อยเกี่ยวกับตัวคุณเป็นการที่ผู้สัมภาษณ์เกี่ยวกับตัวเรามากยิ่งขึ้นโดยคือการให้เราแนะนำตัวเองนั่นเอง ซึ่งการแนะนำตัวเองของเราในที่นี้สิ่งที่ผู้สัมภาษณ์ต้องการรู้ก็คือ ตัวเราในมุมมองของการทำงาน จะไม่ใช่การแนะนำตัวเองแบบทั่วๆไปตัวอย่างการตอบคำถามI studied Communication Arts at Bangkok University.– ฉันเรียนนิเทศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพI enjoy creating and publishing content on social media.– ฉันสนุกกับการสร้างสรรค์และ เผยแพร่เนื้อหาต่างๆบนโซเชียลมีเดียI have been an internship in a marketing company for 6 months.– ฉันเคยฝึกงานในบริษัทการตลาดเป็นเวลา 6 เดือน2. How did you hear about this position?–คุณรู้หรือได้ยินเกี่ยวกับตำแหน่งนี้ได้อย่างไรตัวอย่างการตอบคำถามI found an advertisement for the job on the internet.– ฉันเจอโฆษณาเกี่ยวกับการสมัครงานนี้บทอินเทอร์เน็ตI found this position on the company website.– ฉันเจองานตำแหน่งนี้อยู่บนเว็ปไซต์ของบริษัท3. Why are you interested in this position?– ทำไมคุณถึงสนใจในตำแหน่งงานนี้สิ่งที่ผู้สัมภาษณ์อยากจะรู้จากคำถามนี้ก็คือ ตัวเราเหมาะกับตำแหน่งนี้ขนาดไหน ทำไมเราถึงเหมาะกับตำแหน่งงานนี้ ซึ่งสิ่งที่เพื่อนๆควรจะบอกผู้สัมภาษณ์ก็คือ ความสามารถที่เรามี มันตรงกับตำแหน่งนี้นะ หรือว่า เราอาจจะบอกว่าตำแหน่งนี้แหละคือตำแหน่งที่เราถนัดที่สุดในการที่จะทำงานตัวอย่างการตอบคำถามI have always been interested to work in this field for a long time.– ฉันมีความสนใจที่จะทำงานในตำแหน่งนี้/ในด้านนี้ เป็นเวลานานแล้ว *(เพื่อจะให้ผู้สัมภาษณ์รู้ว่าเราสนใจด้านนนี้โดยเฉพาะ และ เราเตรียมตัวเพื่อที่จะมาทำงานด้านนี้โดยเฉพาะ)I think this position fits with my ability and my goal in this company.– ฉันคิดว่าตำแหน่งงานนี้ตรงกับความสามารถที่ฉันมี และ ตรงกับเป้าหมายที่ฉันตั้งใจไว้ในบริษัทนี้ *(เพื่อที่จะทำให้ผู้สัมภาษณ์เชื่อว่าเราสามารถที่จะทำงานนี้ได้)4. Why should we hire you?– ทำไมเราถึงต้องจ้าง หรือ เลือกคุณเข้ามาทำงานคำถามนี้เป็นอีกหนึ่งคำถามที่ถ้าทายมากๆ ซึ่งเพื่อนๆจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม และ ต้องมั่นใจกับคำตอบของเราว่า ใช่คุณต้องจ้างฉันสิ เพราะฉันมีความสามารถแบบนี้นะ และ ฉันเหมาะกับงานตำแหน่งนี้มากๆ ซึ่งจุดประสงค์ของผู้สัมภาษณ์คือ ต้องการที่จะเห็นว่าเร่ามั่นใจแค่ไหน กับการทำงานในตำแหน่งนี้ เรามั่นใจในตัวเองแค่ไหนว่าเรามีความสามารถที่จะทำงานในตำแหน่งนั้นจริงๆตัวอย่างการตอบคำถามI have the experience and I assure you that I will give my best for the job. – ฉันมีประสบการณ์ และ ฉันขอให้คุณมั่นใจได้เลยว่าฉันจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่องานนนี้I believe that my experience with technology, specifically in the web design space, make me the best match for this position. In my previous job, I was responsible for maintaining and updating our company website. This required keeping employee profiles updated and continuously posting information regarding upcoming events. I truly enjoyed what I was doing, which is what drew me to this position with your company. I would love to bring the coding and content skills I learned there to this position. – ฉันเชื่อว่าประสบการณ์ของฉันกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะในด้านการออกแบบเว็บ ทำให้ฉันเหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากที่สุด ในงานก่อนหน้านี้ ฉันมีหน้าที่ดูแลและปรับปรุงเว็บไซต์ของบริษัท เกี่ยวกับการทำให้โปรไฟล์พนักงานอัพเดตอยู่ตลอด และ โพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฉันสนุกกับสิ่งที่ฉันทำมากๆ ซึ่งมันดึงดูดให้ฉันมาสนใจอยู่ในตำแหน่งนี้กับบริษัทของคุณ ฉันจึงอยากที่จะนำทักษะการเขียนโค้ด และ ทักษะการเขียนเนื้อหา และ คอนเทนต์ ที่ฉันได้เรียนรู้มาสู่ตำแหน่งนี้5. What are your strengths and weaknesses?– อะไรคือจุดแข็ง และ จุดด้อยของคุณตัวอย่างการตอบคำถามI am a proactive person and a problem solver.– ฉันเป็นคนที่มีความกระตือรือร้น และ เป็นคนที่ชอบแก้ไขปัญหาต่างๆSometimes I focus too much on details and it takes more time to get the job done.– บางครั้งฉันโฟกัสในดีเทลในรายละเอียดของงานมากเกินไป และ มันทำให้ใช้เวลานานในการที่จะทำให้งานๆนึงเสร็จสมบูรณ์6. Where do you see yourself in 5 years?– คุณเห็นตัวเองอยู่ในจุดไหนในอีก5 ปีข้างหน้าตัวอย่างการตอบคำถามBy then I will have improved a lot and will have become a team leader.– ในตอนนั้นฉันก็คงจะพัฒนาขึ้นมาก และ ฉันก็คงจะกลายเป็นหัวหน้าทีม7. Why do you want to work here?– ทำไมคุณถึงอยากมาทำงานที่นี่ตัวอย่างการตอบคำถามI have always wanted to work here because I believe I will have achieved my goal here and grow together with the company.– ฉันต้องการจะทำงานที่นี่มาตลอดเลยเพราะว่าฉันเชื่อว่าฉันจะสามารถบรรลุเป้าหมายของฉันที่นี่ได้ และ เติบโตไปพร้อมๆกับบริษัทได้8. Why Did YouLeaveYour Last Job?– ทำไมคุณถึงออกจากงานที่เก่าตัวอย่างการตอบคำถามThere isn’t room for growth with my current employer, and I’m ready to move on to a new challenge.– ฉันไม่มีโอกาสได้ก้าวหน้าในที่ทำงานเดิมเลย และฉันเองพร้อมแล้วที่จะเจอความท้าทายใหม่ๆI found myself bored with the work and looking for more challenges. I am an excellent employee, and I didn’t want my unhappiness to have any impact on the job I was doing for my employer.– ฉันพบว่าฉันเบื่องานเดิมและต้องการมองหาความท้าทายใหม่ๆ ฉันเป็นลูกจ้างที่ดีนะ และฉันไม่ต้องการให้ “ความรู้สึกไม่มีความสุข” ของฉันนั้นมากระทบกับงานที่ทำที่บริษัทเดิม9. Do you have any questions for me?– คุณมีคำถามอะไรจะถามฉันไหมตัวอย่างการตอบคำถามCan you tell me about the job?– คุณช่วยพูดเกี่ยวกับงานนี้ให้ฉันฟังได้ไหมWhat is the most enjoyable part about working here?– อะไรคือส่วนที่สนุกที่สุดเกี่ยวกับการทำงานที่นี่What kind of tasks will be my primary concern?– งานประเภทใดที่เราต้องให้ความสนใจเป็นอันดับแรกCan you tell me a little bit about the team I will work with?– คุณช่วยบอกเกี่ยวกับทีมงานที่ฉันจะร่วมงานด้วยได้ไหมสรุปไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาไทย เราอยากให้เพื่อนๆได้เตรียมตัวฝึกซ้อมก่อนทุกครั้งก่อนที่จะเริ่มสัมภาษณ์งานในวันจริง อาจจะเป็นการฝึกซ้อมดูบุคลิกภาพ และ ท่าทางของตนเองในระหว่างที่พูดออกมา ควรมีความมั่นใจ พยายามขายและบอกจุดเด่นและประสบการณ์การทำงานของเรามาให้ดีและมากที่สุด เพื่อที่จะทำให้ผู้สัมภาษณ์เราเกิดความประทับใจ และ อยากที่จะให้เรามาร่วมงานกับเขานั่นเองที่มา : 9 คำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ สัมภาษณ์ทีไรเจอแน่นอน ตอบยังไงไปดูกัน
อ่านเพิ่มเติมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแถลงข้อมูลรายงาน“Future of Jobs 2025”ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นตัวแทนหนึ่งเดียวในประเทศไทยร่วมกับWorld Economic Forumในการเสนอแนวทางเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานในระหว่างปี พ.ศ.2568–2573รายงานนี้อ้างอิงจากการสำรวจ1,000 บริษัท ครอบคลุมพนักงาน14 ล้านคน ใน22 อุตสาหกรรม จาก55 ประเทศทั่วโลก โดยมีผลการวิเคราะห์ที่สำคัญดังนี้ตำแหน่งงานใหม่170 ล้านตำแหน่ง จะเกิดขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม92 ล้านตำแหน่งงาน จะหายไป เนื่องจากระบบอัตโนมัติและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจการเติบโตสุทธิของการจ้างงานคิดเป็น7% หรือเท่ากับ78 ล้านตำแหน่งงานทั่วโลกปัจจัยสำคัญที่เปลี่ยนแปลงตลาดแรงงานในปี 2573โดยเรียงลำดับความสำคัญ ดังนี้การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีAI หุ่นยนต์ และนวัตกรรมด้านพลังงานเป็นปัจจัยหลักที่เปลี่ยนแปลงบทบาทงานและทักษะการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกระตุ้นความต้องการวิศวกรสิ่งแวดล้อมและพลังงานหมุนเวียนความผันผวนทางเศรษฐกิจค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจเป็นความท้าทายสำคัญการเปลี่ยนแปลงด้านประชากรประชากรสูงอายุในประเทศรายได้สูงและแรงงานขยายตัวในประเทศรายได้ต่ำปรับเปลี่ยนตลาดแรงงานการแบ่งแยกทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศข้อจำกัดทางการค้าและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลต่อรูปแบบธุรกิจทักษะในอนาคตของประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกภายในปี พ.ศ.2573 สองในห้าของทักษะที่มีอยู่จะถูกเปลี่ยนแปลง ทักษะที่สำคัญของไทย คือ ทักษะด้านAI และBig Data ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ ทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์ ทักษะด้านเครือข่ายและความปลอดภัยทางข้อมูล ในขณะที่ระดับโลกเน้นทักษะด้านAI และBig Data ทักษะด้านเครือข่ายและความปลอดภัยทางข้อมูล ความฉลาดในการใช้งานเทคโนโลยี และทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์กลยุทธ์สำคัญ5 ประการสำหรับประเทศไทยสร้างการเปลี่ยนแปลงแบบ Holistic Skill Change: ยกเครื่องการUpskill ของบุคลากรในมิติ ไม่ใช่ทักษะใดทักษะหนึ่งเท่านั้นสร้างองค์กรให้เป็น Future-Ready Organizationที่ต้องมีระบบการพัฒนาทักษะอนาคตของบุคลากรHuman Replacementงานที่ซ้ำซากให้เลิกใช้คน และทดแทนด้วยระบบAutomationEnhancing Dynamic Work Roleมีการส่งเสริมให้ไม่ยึดติดกับบทบาทการทำงานในแบบเดิม ๆ แต่มีการปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาผสานเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้เข้ากับการทำงาน: เชื่อมโยงเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อสร้างนวัตกรรมที่เพิ่มคุณค่าและความสามารถในการแข่งขันศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร ยังกล่าวด้วยว่า “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก้าวสู่การเป็น “The University of AI” มหาวิทยาลัยแห่งนี้มุ่งสร้าง “คนพันธุ์ใหม่” หรือ “Future Human” ที่ไม่ได้เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญในการใช้งาน AI (Artificial Intelligence) แต่ยังเปี่ยมด้วยทักษะที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง II (Instinctual Intelligence) หรือ “ปัญญาสัญชาตญาณ” ซึ่งสร้างสรรค์ปัญญาที่ไม่อาจประดิษฐ์ขึ้นได้ ที่สำคัญ ‘คนพันธุ์ใหม่’ จะต้องไม่ได้มีเพียงสมองที่ชาญฉลาด แต่ต้องมีหัวใจที่ดีงาม ที่จะเปลี่ยนความสามารถทางเทคโนโลยีให้เป็นพลังที่สร้างคุณค่าแก่ทั้งตนเองและสังคม”ที่มา : The Future of Jobs 2025 – จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อ่านเพิ่มเติมคนทำงาน จะประสบความสำเร็จได้ด้วยความขยัน + กลยุทธ์ที่ถูกต้องเป็นเรื่องธรรมดาของคนทำงานทั่วๆ ไปหรือ “มนุษย์เงินเดือน” ในโลกของการทำงานที่อยากจะทำงานแล้วประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ได้เลื่อนตำแหน่งมีความก้าวหน้า จนสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองและครอบครัวผ่านการทำงานหนักในองค์กรใหญ่แต่เป้าหมายทั้งหมดนี้อาจไม่เป็นจริงเสมอไป หากปราศจากกลยุทธ์ที่ถูกต้องเมื่อพูดถึงคำว่า “กลยุทธ์” หลายคนอาจนึกถึงผู้บริหารระดับสูงหรือเจ้าของธุรกิจ แต่ในความเป็นจริง กลยุทธ์สามารถนำมาใช้กับทุกระดับของการทำงานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมนุษย์เงินเดือนทั่วไป การมีแนวคิดเชิงกลยุทธ์จะช่วยให้เราก้าวข้ามจากการเป็นแค่พนักงานธรรมดา ไปสู่การเป็นบุคลากรที่องค์กรขาดไม่ได้หากเปรียบเทียบโลกของการทำงานกับพีระมิด เราจะเห็นว่ามีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุด คนเหล่านั้นมีแนวคิดและวิธีการทำงานที่แตกต่างจากคนทั่วไป และสิ่งสำคัญที่ทำให้พวกเขาโดดเด่นก็คือ การสร้างผลงานที่มีประสิทธิภาพสูงในระยะยาว (Superior Long-Term Performance)3องค์ประกอบของความสำเร็จในอาชีพในโลกของธุรกิจ ความสำเร็จมักถูกวัดจาก กำไร การเติบโต และความยั่งยืน ซึ่งแนวคิดเดียวกันนี้สามารถนำมาปรับใช้กับการทำงานได้เช่นกัน1.กำไร (รายได้) : ในบริบทของคนทำงาน กำไรหมายถึงรายได้ที่ได้รับ คนที่สร้างผลงานได้โดดเด่น ย่อมมีโอกาสเรียกร้องค่าตอบแทนที่สูงขึ้น2.การเติบโต (ความก้าวหน้าในอาชีพ) : ความก้าวหน้าไม่ได้หมายถึงเพียงการเลื่อนตำแหน่ง แต่รวมถึงการได้รับโอกาสใหม่ๆ ที่จะพัฒนาทักษะและความสามารถของตนเอง3.ความยั่งยืน (ความมั่นคงในการทำงาน) : คนที่มีความสามารถและคุณค่าต่อองค์กรจะสามารถรักษาตำแหน่งงานไว้ได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกแทนที่ง่ายๆคำถามคือ แล้วเราจะสามารถบรรลุ3 องค์ประกอบดังกล่าวได้อย่างไร?ในเมื่อทุกคนมีเวลาเท่ากันคือ24 ชั่วโมงต่อวัน สิ่งที่ทำให้คนหนึ่งประสบความสำเร็จมากกว่าอีกคนคือ วิธีการใช้เวลา คนที่ประสบความสำเร็จมักใช้เวลาของพวกเขาไปกับกิจกรรมที่สร้างคุณค่าและผลลัพธ์ที่จับต้องได้การทำงานที่มีประสิทธิภาพ (Efficiency) คือ การทำสิ่งต่างๆ ให้ถูกต้อง (Do Things Right)แต่ที่สำคัญกว่าคือการทำงานอย่างมีประสิทธิผล (Effectiveness) ซึ่งหมายถึง การทำสิ่งที่ถูกต้อง (Do the Right Things)ในการทำงาน หลายคนมักให้ความสำคัญกับ “ประสิทธิภาพ” (Efficiency) เพราะเชื่อว่าการทำงานอย่างรวดเร็ว เป็นระเบียบ และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าจะนำไปสู่ความสำเร็จ แต่ในความเป็นจริง สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ “ประสิทธิผล” (Effectiveness) เพราะการทำงานอย่างมีประสิทธิผลคือการเลือกทำสิ่งที่ถูกต้อง และสร้างผลลัพธ์ที่แท้จริงให้เกิดขึ้นลองนึกภาพพนักงานสองคนที่ต้องจัดทำรายงานส่งผู้บริหารคนแรก ใช้เวลา3 ชั่วโมงในการจัดทำรายงานที่ละเอียดมาก ตัวเลขเป๊ะ กราฟดูดี และทุกอย่างเป็นระเบียบสุดๆ แต่ปัญหาคือ เนื้อหาของรายงานไม่ได้ตอบโจทย์สิ่งที่ผู้บริหารต้องการใช้ตัดสินใจคนที่สอง ใช้เวลาเพียง1 ชั่วโมง จัดทำรายงานที่เน้นเฉพาะประเด็นสำคัญที่ผู้บริหารต้องใช้ในการตัดสินใจ แม้ว่ากราฟอาจจะไม่สวยเป๊ะเท่าคนแรก แต่รายงานของเขากลับได้รับการนำไปใช้จริงในตัวอย่างนี้ คนแรกอาจมี “ประสิทธิภาพ” มากกว่า เพราะเขาทำงานออกมาอย่างละเอียดและเรียบร้อย แต่คนที่สองมี “ประสิทธิผล” มากกว่า เพราะเขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง ตรงจุดประสงค์ และให้ผลลัพธ์ที่มีค่ากว่านั่นเองทำไม “ประสิทธิผล” จึงสำคัญกว่าประสิทธิภาพ?ทำถูกวิธี ≠ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการซึ่งการทำงานอย่างมีระเบียบไม่ได้แปลว่าจะนำไปสู่ความสำเร็จเสมอไปหากคุณทำงานที่ไม่จำเป็นหรือไม่สำคัญต่อให้ทำได้ดีแค่ไหนก็อาจไม่มีผลกระทบต่อเป้าหมายที่แท้จริงโลกของงานวัดกันที่ผลลัพธ์ ไม่ใช่แค่ความขยัน โดยคนที่ทำงานหนักอาจได้รับคำชม แต่คนที่สร้างผลลัพธ์ที่มีคุณค่าให้กับองค์กรจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง และมีรายได้ที่สูงขึ้นทรัพยากรและเวลามีจำกัด ต้องใช้ให้คุ้ม เพราะในชีวิตการทำงาน เรามีทั้งเวลาและพลังงานที่จำกัด การเลือกทำสิ่งที่สำคัญก่อน และทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็น จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นกลยุทธ์ในการสร้างความได้เปรียบในการทำงานดังนั้นเพื่อให้ตัวเองโดดเด่นจากคนอื่นๆ ในองค์กร มีหลักคิดที่สามารถนำไปใช้ได้ดังนี้หาโอกาสที่เหมาะสม : มองหาการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อม เทรนด์ตลาด หรือโอกาสใหม่ๆ ที่จะช่วยให้คุณเติบโตพัฒนาจุดแข็งของตัวเอง : ใช้เครื่องมืออย่างStrength Finderเพื่อค้นหาว่าคุณมีความสามารถเด่นด้านใด และนำมาพัฒนาให้กลายเป็นข้อได้เปรียบลงมือทำทันที : ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นจากการคิดอย่างเดียว ต้องมีการลงมือทำจริง พร้อมปรับตัวและเรียนรู้จากข้อผิดพลาดบริหารความเร็ว : ในโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว คนที่ลงมือทำก่อน ย่อมมีโอกาสมากกว่า แม้ว่าจะยังไม่สมบูรณ์แบบ100%ท้ายที่สุดนี้ คนทำงานที่ต้องการความสำเร็จต้องเริ่มต้นจาก การมีแนวคิดเชิงกลยุทธ์ ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน พัฒนาทักษะที่มีค่า และบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือลงมือทำโดยไม่รอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบลองจินตนาการถึงตัวเองในอีก5 ปี10 ปี หรือ20 ปีข้างหน้า คุณอยากให้ชีวิตของตัวเองเป็นแบบไหน? ถ้าวันนี้คุณทำงานแบบสบายๆ ไม่พยายามพัฒนาตัวเองเลย อนาคตของคุณจะเป็นอย่างไร?แนวคิดนี้คล้ายกับหลักการของเครื่องบิน เวลาที่ต้องทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า มันต้องใช้พลังงานสูงสุด แต่เมื่อขึ้นไปถึงระดับความสูงที่เหมาะสมแล้ว การบินจะราบรื่นขึ้น หากเปรียบเทียบกับชีวิตการทำงาน ถ้าเราเต็มที่กับงานในช่วงแรก สร้างรากฐานที่มั่นคง เมื่อถึงจุดหนึ่ง เราจะสามารถ “บิน” ได้อย่างมั่นคงและมีความสุขที่มา : กลยุทธ์ 'คนทำงาน' เงินพุ่ง งานรุ่ง ใครก็แทนไม่ได้ – THE STANDARD
อ่านเพิ่มเติม