ข่าวสารและบทความ

ข่าวล่าสุด

13 พฤษภาคม 2568

คนรุ่นใหม่ใช้ AI ช่วยสมัครงาน-เขียนเรซูเม่-ฝึกซ้อมสัมภาษณ์งาน

ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทอย่างมากในหลายด้านของชีวิตประจำวัน หนึ่งในนั้นคือกระบวนการหางานและการสมัครงาน รายงานแนวโน้มตลาดปี2025 จากบริษัทจัดหางานCareer Group Companies ระบุว่า ประมาณ65% ของผู้สมัครงานใช้AI ในหลายขั้นตอนของกระบวนการสมัครงาน ได้แก่19% ใช้AI ในการเขียนประวัติย่อ (resume)20% ใช้ในการเขียนจดหมายสมัครงาน9% ใช้ในการสร้างภาพถ่ายโปรไฟล์7% ใช้ในการฝึกสัมภาษณ์5% ใช้ในการสร้างตัวอย่างผลงาน5% ใช้ในการให้คำแนะนำด้านอาชีพนายจ้างตั้งข้อสงสัย การใช้AI ช่วยสมัครงานผิดจริยธรรมไหม?จิลเลียน ลอว์เรนซ์ (Jillian Lawrence) รองประธานอาวุโสของCareer Group Companies เปิดเผยมุมมองกับCNBC Make It ว่า เธอได้เห็นการใช้งานAI พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา และคิดว่าวัยทำงานยุคนี้กำลังมองหาใช้วิธีการสมัครงานที่ชาญฉลาดขึ้น ไม่น่าแปลกใจเลยถ้าพวกเขาจะสนใจหรือลองใช้AI มาช่วยในขั้นตอนการสมัครงานอย่างไรก็ตาม การใช้AI ในกระบวนการสมัครงานยังคงเป็นที่ถกเถียงอยู่ว่ามันเหมาะสมหรือไม่ จากการศึกษาของZety ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มด้านอาชีพและการหางาน (เผยแพร่เมื่อปีที่แล้ว) ชี้ว่า42% ของผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลมองว่า การใช้AI ในกระบวนการสมัครงานเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมทางจริยธรรม ความกังวลเหล่านี้เพิ่มขึ้นเมื่อAI ถูกนำมาใช้ในการประเมินทักษะของผู้สมัครงาน โดยมากกว่าสองในสามของผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล มีความกังวลเกี่ยวกับการใช้AI ในด้านนี้จัสมิน เอสคาเลรา (Jasmine Escalera) ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพจากZety สะท้อนความเห็นว่า ความกังวลเหล่านี้มีเหตุผล "หากคุณใช้มันเพื่อเสริมทักษะของคุณหรือแสดงทักษะที่คุณไม่มีจริง ๆ นั่นเป็นปัญหา โดยพื้นฐานแล้วหากคุณใช้เอไอเพื่อแสดงทักษะนั้น มันก็แปลว่าคุณอาจไม่สามารถทำงานนั้นได้จริงๆ"เปิดคำแนะนำการใช้AIที่ดีที่สุดสำหรับผู้สมัครงานหากผู้สมัครงานใช้ AI มาช่วยเขียนเรซูเม่หรือจดหมายสมัครงานต่างๆ ก็ควรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ใช้AI สร้างขึ้น ผู้สมัครควรใช้เวลาในการตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกอย่างที่AI สร้างขึ้นนั้น เป็นข้อมูลของผู้สมัครจริงๆ ที่ถูกต้อง และสอดคล้องกับทักษะและความสามารถของผู้สมัครเนื่องจากAI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือเกินจริงได้"AI อาจสร้างข้อมูลที่มีความซ้ำซ้อนและไม่ถูกต้องเสมอไป สิ่งใดที่ไม่เป็นความจริง ผู้สมัครงานจะต้องแก้ไขใหม่ รวมถึงตรวจทานเนื้อหาในใบสมัครซ้ำหลายๆ รอบเพื่อความถูกต้องครบถ้วนที่สุด"คำแนะนำนี้สอดคล้องกับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญอย่าง เจเรมี ชิเฟลิง (Jeremy Schifeling) ผู้เขียนหนังสือ "Career Coach GPT" ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับการใช้ AI ในกระบวนการหางาน เขาแนะนำให้ผู้สมัคร "ตรวจสอบ ตรวจสอบ และตรวจสอบ" ทุกอย่างที่พวกเขาใช้ AI สร้างขึ้น"สิ่งสุดท้ายที่คุณต้องการคือการนั่งอยู่ในการสัมภาษณ์รอบสุดท้ายแล้วถูกถามเกี่ยวกับประวัติย่อที่ AI สร้างขึ้นแบบผิดๆ และคุณตอบไม่ได้ (เพราะลืมตรวจทานข้อมูล) จนอาจทำให้อับอายในระหว่างสัทภาษณ์"นอกจากนี้ เอสคาเลราให้คำแนะนำอีกว่า ควรใช้AI เพื่อช่วยปรับแต่งใบสมัครให้ตรงกับคำอธิบายลักษณะงาน เพื่อให้ผู้อ่านทำความเข้าใจง่ายขึ้น และอาจรวมถึงการใช้AI ช่วยคัดกรองศัพท์เทคนิคเฉพาะของสายงานนั้นๆหรือใช้มันช่วยการตรวจสอบไวยากรณ์ ฯลฯ แต่นอกเหนือจากนั้นคุณควรเขียนจดหมายสมัครงานและเรซูเม่ด้วยตัวเอง"ตัวคุณคือพื้นฐาน และAI เข้ามาเพื่อเสริมพื้นฐานที่คุณมีให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ไม่ใช่ว่าใช้มันเพื่อทำงานให้คุณทั้งหมดทุกอย่าง"ขณะที่ ลอว์เรนซ์เตือนให้วัยทำงานคนรุ่นใหม่ระวังการอัปโหลดข้อมูลส่วนบุคคลเข้าสู่โปรแกรม AI เพราะมันอาจถูกใช้เกินวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้ โดยเฉพาะอาจเกิดการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวได้สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนสำหรับทั้งลอว์เรนซ์และเอสคาเลราคือ ปรากฏการณ์นี้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองคนมองว่าการใช้AI ในกระบวนการสมัครงานจะยังคงแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ทุกคนจะใช้AI ทำเรื่องนี้กันอย่างปกติ แต่สิ่งสำคัญคือต้องหาวิธีใช้มันให้ผลลัพธ์ใบสมัครงานออกมาดีที่สุด ไม่ใช่ใช้มันทำแทนทั้งหมดทุกขั้นตอนที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/1169965

อ่านเพิ่มเติม

07 พฤษภาคม 2568

สำรวจ Future of Work ปี 2025 เมื่อ AI มาแรง – ต้องแย่งชิง Talent – ความยืดหยุ่นในการทำงานเพิ่มขึ้น

ภูมิทัศน์ของการทำงานกำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งขับเคลื่อนโดยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และพลวัตทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องรับรู้ถึงFuture of Workหรือ อนาคตของการทำงาน เพื่อเตรียมความพร้อม และทำความเข้าใจแนวโน้มต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น8 future of work trends 2025 1.หมั่นพัฒนาทักษะและเรียนรู้เรื่องใหม่เนื่องจากAI เข้ามามีบทบาทอย่างมากในด้านการทำงานในปัจจุบัน ทำให้เรื่องการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่องยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น ดังนั้น องค์กรที่สามารถสร้างภาพลักษณ์เรื่อง การให้โอกาสในการเรียนรู้ จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการดึงดูดพนักงานที่มีศักยภาพในฐานะตัวบุคคล การสร้างLifelong learning mindset จะเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างResilience ในอาชีพ และเปิดโอกาสให้ตนเองอย่างต่อเนื่อง 2.ทำงาน4วันต่อสัปดาห์ –สร้างWork productivityและสมดุลชีวิต93%ของพนักงานที่อยู่ในโครงการทดลองทำงาน4วันต่อสัปด์ ต้องการให้เปลี่ยนเป็นรูปแบบนี้ถาวรและที่น่าสนใจคือ การเปลี่ยนรูปแบบมาทำงานแบบ4วันต่อสัปดาห์ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการเดินทางถึง50%การออกนโยบายให้ทำงาน 4วันต่อสัปดาห์ หรือการท้าทายรูปแบบการทำงานแบบเดิม ๆ ที่ทำงาน5วันต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นโครงการที่องค์กรชั้นนำหลาย ๆ ที่ได้ลองนำมาใช้แล้วเห็นผลในทางเดียวกันว่า สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และทำให้ความเครียดของพนักงานลดลง 3.Gig Economy 2.0 –สร้างเส้นทางอาชีพ และโอกาสใหม่ในการทำงานGig economy หรือ การจ้างงานแบบครั้งคราว ตามสัญญาที่ตกลงไว้ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากสร้างประโยชน์ทั้งฝั่งนายจ้าง และลูกจ้าง ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในปีหน้า และ สามารถดึงดูดเหล่าTalent ได้จากการเปิดโอกาสให้พนักงานมีอำนาจในการตัดสินใจในเนื้องานเอง ความยืดหยุ่น และความอิสระในการทำงาน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่กำลังเข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้นเรื่อย ๆ 4.ความร่วมมือระหว่างHuman & Machine –ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานขึ้นบทบาทของ AI ในโลกธุรกิจมีอิทธิพลขึ้นมาก ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพ หรือแทนที่งานบางอย่าง อีกทั้งปลดล็อคโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจ ที่สร้างนวัตกรรมและขับเคลื่อนอนาคตAI สามารถเพิ่มHuman Capability และเป็นคู่หูในการระดมความคิดสร้างสรรค์ได้ ทำให้ควรเรียนรู้และพัฒนาทักษะในการนำAI มาใช้งาน เพื่อยกระดับผลงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น เรียนรู้การป้อนคำสั่ง หรือเครื่องมือAI ที่เหมาะกับงานแต่ละแบบ เป็นต้น 5.ผู้นำแบบHuman-Centric –จากแจกแจงงานเพียงอย่างเดียว สู่การพัฒนาTalentและ Teamผู้นำที่จะเป็นที่ต้องการ คือ ผู้นำที่สามารถสร้างConnection รู้แนวทางการให้คำปรึกษาทางอาชีพ และสร้างทีมที่เหนียวแน่นกลมกล่อม ขับเคลื่อนผลงานในองค์กรได้บทบาทของผู้นำแบบHuman-Centric จำเป็นต้องมีคุณสมบัติเรื่อง ความเห็นอกเห็นใจ การอำนวยความสะดวกในการทำงาน และมุ่งเน้นพัฒนาพนักงาน 6.สร้างความImmersive–ในการทำงานออนไลน์ในปี2568 การผสมผสานเทคโนโลยี VR และAR ช่วยให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น โดยไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่ ตั้งแต่การประชุม ไปจนถึงการฝึกอบรมพนักงาน การทำกิจกรรมสร้างเสริมความเป็นทีม เป็นต้น ทำให้เรื่องWork-Focused Platform ยังคงอยู่ เพื่อสนับสนุนการทำงานระยะไกล และผสมผสานประโยชน์ของการโต้ตอบแบบตัวต่อตัวทางดิจิทัล 7.บทบาทที่เพิ่มขึ้นของAI–ในงานด้านทรัพยากรบุคคลหรือHuman Resourceการบูรณาการ AI กับเรื่องHR กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ หรือบางอย่างอาจเพิ่มคุณภาพได้ในเรื่องต่าง ๆ เช่น เรื่องRecruitment, Performance Management, Employee Engagement, Talent Development เป็นต้นอีกทั้ง ในระหว่างที่AI จัดการงานที่อาศัยความซ้ำซ้อน มีรูปแบบที่ชัดเจน คนHR ก็สามารถใช้เวลาในเรื่องเชิงกลยุทธ์มากขึ้น ทำให้มุ่งเน้นการขับเคลื่อนทิศทางหลักขององค์กร และเตรียมความพร้อมของทรัพยากรปัจจุบันและอนาคต 8.การให้ความยืดหยุ่นในการทำงาน –จะกลายเป็นNew NormalการทำงานในรูปแบบHybrid กลายเป็น ‘Default’ ในSkilled Roleทำให้พนักงานสามารถจัดสรรเวลาในการทำงาน และใช้ชีวิตได้อย่างอิสระมากขึ้น ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามช่วงเวลาที่ตนเองสามารถดึงศักยภาพสูงสุดออกมาได้แนวโน้มทั้ง8 ข้อด้านบน เป็นเพียงการคาดการณ์จากสถานการณ์ทางธุรกิจ และเทรนด์ในปัจจุบัน สำหรับการเตรียมพร้อมเข้าสู่ปี2025 นอกจากนี้ จึงขอต่อยอดเกี่ยวกับSkill หรือ ทักษะ ที่สำคัญในปี2025มีFuture Skillทั้งหมด5ทักษะ ที่ควรจับตามอง และพัฒนาให้พร้อมสู่ปี2025ที่กำลังจะถึงนี้ความรู้ด้านดิจิตอลและความเชี่ยวชาญด้านข้อมูลเนื่องจากอุตสาหกรรมทุกแห่งกำลังมีการเปลี่ยนแปลงทางดิจิตอล พนักงานที่สามารถทำงานในแพลตฟอร์มดิจิตอลและมีความสามารถในการทำงานกับข้อมูลจะเป็นที่ต้องการขององค์กร เพราะDigital Literacyจะไม่ใช่โบนัสอีกต่อไป แต่จะเป็นเรื่องจำเป็นที่ทุกคนต้องรู้อีกทั้งองค์กรต้องการพนักงานที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตัดสินใจอย่างมีหลักเกณฑ์อ้างอิง ไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด การเงิน หรือการดำเนินงานมีความคิดสร้างสรรค์และคิดเชิงนวัตกรรมในปัจจุบัน AI เข้ามามีบทบาทอย่างมากในโลกธุรกิจ ทำให้เรื่อง ความคิดสร้างสรรค์ และคิดเชิงนวัตกรรมในการริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ จะเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากAI ได้ องค์กรจะมองหาคนที่สามารถริเริ่มไอเดียใหม่ ๆ และใช้ต่อยอดเชิงธุรกิจได้ เช่น ในด้านการตลาด การออกแบบ หรือเรื่องเชิงกลยุทธ์ เป็นต้นมีความฉลาดทางอารมณ์ หรือEmotional Intelligence (EI)เมื่อรูปแบบการทำงานเป็นรูปแบบHybrid และกระจายตัวมากขึ้นEmotional Intelligence จะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำงานร่วมกันและการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพการเปิดใจเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ และพร้อมปรับตัวอย่างต่อเนื่องCapability ของคนในปัจจุบันสามารถล้าสมัยได้อย่างรวดเร็วจากการมีบทบาทของ Technology ทำให้การมีLifelong Learning Mindset จำเป็นอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงเรื่อย ๆ และยังคงความสามารถในการแข่งขันในตลาดได้ล้มแล้วลุกไว และเรียนรู้จากประสบการณ์แรงกดดันของการทำงานสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกหลังการระบาด แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความยืดหยุ่นและสุขภาพจิตที่มา: https://pwg.co.th/

อ่านเพิ่มเติม

28 เมษายน 2568

8 ทักษะความเป็นผู้นำที่สำคัญในปี 2025

จากการวิจัยล่าสุดและบทวิเคราะห์เชิงลึกของผู้เชี่ยวชาญ ได้ระบุ “ทักษะ”8 อย่างที่เปรียบเสมือนกุญแจสำคัญของผู้นำในอนาคต เครื่องมือเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้พวกเขายืนหยัดต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลง แต่ยังช่วยปลดล็อกศักยภาพใหม่ ๆ ให้กับทีมงานและองค์กรได้อีกด้วย1. ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence - EI)ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีบทบาทสำคัญ ความฉลาดทางอารมณ์ยังคงเป็นทักษะจำเป็นที่สุดสำหรับผู้นำ โรงเรียนธุรกิจSwiss School of Business and Management (SSBM) ระบุว่าผู้นำที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูงสามารถสร้างความไว้วางใจ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่ดี และช่วยรักษาขวัญกำลังใจของทีมได้2. การบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management)ปัจจุบันองค์กรเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีหรือแรงกดดันทางตลาดPeople Development Magazine ชี้ให้เห็นว่าทักษะในการจัดการการเปลี่ยนแปลงเป็นหนึ่งในทักษะที่ผู้นำต้องการมากที่สุด โดยผลสำรวจจากPeople Development Magazine พบว่าองค์กรที่มีผู้นำที่เชี่ยวชาญด้านนี้จะสามารถปรับตัวต่อกระแสการดิสรัป (Disruption)ได้ดีกว่า และจะยังคงรักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและรุนแรง3. ความรู้ด้านเทคโนโลยี (Technological Literacy)การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วทำให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีกลายเป็นทักษะที่ผู้นำขาดไม่ได้ AIHR ระบุว่าผู้นำจำเป็นต้องเข้าใจเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ การเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) และการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เป็นต้น การมีความรู้ด้านเทคโนโลยีไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ควรเข้าใจว่ามันส่งผลต่อธุรกิจอย่างไรและจะสามารถนำไปใช้เพื่อสร้างนวัตกรรมได้อย่างไร AIHR ยังชี้ให้เห็นว่าผู้นำที่มีความรู้เรื่องดิจิทัล สามารถสร้างความมั่นใจให้กับทีมและทำให้องค์กรอยู่ในฐานะที่ได้เปรียบทางการแข่งขันอีกด้วย4. ความยืดหยุ่นและการปรับตัว (Resilience and Adaptability)สภาพแวดล้อมทางธุรกิจในปัจจุบันมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้ผู้นำต้องแสดงความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัวHarvard Business School ระบุว่าคุณสมบัติเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับรับมือกับความผันผวน ผู้นำที่มีความยืดหยุ่นจะรักษาความนิ่งในสถานการณ์ที่กดดัน ขณะที่ผู้นำที่ปรับตัวได้ดีจะสามารถเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการใหม่ ๆ ได้5. ความเป็นผู้นำที่เน้นการมีส่วนร่วม (Inclusive Leadership)ความหลากหลายและการสร้างวัฒนธรรมมีส่วนร่วม (Inclusive culture) จะไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกอีกต่อไป แต่กลายเป็นหัวใจสำคัญของการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ งานวิจัยของExecOnline ชี้ให้เห็นว่าผู้นำที่เน้นการมีส่วนร่วมจะเปิดรับมุมมองที่หลากหลายและสร้างสภาพแวดล้อมที่ทุกคนรู้สึกมีคุณค่า6. วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ (Strategic Vision)ความสามารถในการกำหนดวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและสร้างแรงบันดาลใจ ถือเป็นจุดเด่นของความเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ จากงานวิจัยของLeadership Topics ชี้ให้เห็นว่าทักษะนี้เกี่ยวข้องกับการวางแผนระยะยาว การกำหนดเป้าหมายขององค์กร และการคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต7. การสอนและการพัฒนา (Coaching and Development)การลงทุนในพนักงานไม่ใช่เพียงแค่ทางเลือก แต่กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้นำในยุคนี้People Development Magazine เน้นย้ำว่าผู้นำที่ใช้แนวทางการบริหารแบบโค้ชจะสามารถสนับสนุนการเติบโตของทีมงานทั้งในด้านอาชีพการงานและชีวิตส่วนตัวได้ ผลการศึกษาของPeople Development Magazine ชี้ให้เห็นว่าผู้นำที่ช่วยเหลือพนักงานผ่านการให้คำแนะนำ การชี้แนะ และการส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง จะสร้างทีมที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อองค์กรโดยรวม8. การสื่อสารและการเล่าเรื่อง (Communication & Storytelling)งานวิจัยจากINSEAD ในปี2024 ชี้ให้เห็นว่า แม้เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แต่มนุษย์ก็ยังต้องเป็นผู้ควบคุม ดูแล และใช้งานมันอยู่ดี ผู้นำที่มีทักษะการสื่อสารและการเล่าเรื่องที่ดีเท่านั้น จึงจะสามารถนำพาทีมงานและองค์กรให้ปรับตัวและนำเทคโนโลยีมาใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพดังนั้น การเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จสำหรับปี2025 จึงต้องอาศัยทักษะที่หลากหลาย เพื่อรับมือกับความท้าทายของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/health/labour/1170142

อ่านเพิ่มเติม

ข่าว

25 เมษายน 2566

ประกาศแจ้งเตือนจากบริษัทในกลุ่มอมตะ

18 เมษายน 2566

สมัครงานยังไง ?...ให้ได้งาน พบกับ 10 เทคนิคดีๆ ที่ควรรู้ !!

บทความ

21 เมษายน 2568

9 คำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ สัมภาษณ์ทีไรเจอแน่นอน ตอบยังไงไปดูกัน

17 เมษายน 2568

The Future of Jobs 2025 ชี้ทักษะแห่งอนาคต พร้อมแนะกลยุทธ์สร้างมนุษย์แห่งอนาคต (Future Human) สำหรับประเทศไทย

08 เมษายน 2568

กลยุทธ์คนทำงาน เงินพุ่ง งานรุ่ง ใครก็แทนไม่ได้

01 เมษายน 2568

ฉายทิศทางตลาดงานปี 2025 งานไหนมาแรง เตรียมตัวอย่างไรไม่ให้เป็นคนตกงาน

25 มีนาคม 2568

เขียนประสบการณ์ทำงาน (Work Experience) ลงในเรซูเม่ให้ได้เปรียบคนอื่น

17 มีนาคม 2568

7 แนวคิดของการทำงานยุคใหม่ให้มีประสิทธิภาพ

12 มีนาคม 2568

7 เทรนด์การทำงานน่าติดตามที่จะมาเปลี่ยนชีวิตการทำงาน ปี 2025

14 มกราคม 2568

10 อันดับอาชีพมาแรงพร้อมฐานเงินเดือนสูงในปี 2025

07 มกราคม 2568

เจาะลึก...งานประจำกับฟรีแลนซ์..ต่างกันตรงไหน..แบบไหนที่ใช่..มากที่สุด

16 ธันวาคม 2567

20 เทรนด์อาชีพมาแรงในอนาคต ปี 2025-2029

04 ธันวาคม 2567

14 คำแนะนำดีๆ สำหรับคนเริ่มต้นหางาน ให้ได้งานที่ใช่

26 พฤศจิกายน 2567

รู้จัก 4 รูปแบบหลักในการสัมภาษณ์งานของผู้สมัคร

15 พฤศจิกายน 2567

เขียนประสบการณ์ทำงาน (Work Experience) ลงในเรซูเม่ ให้ได้เปรียบคนอื่น

26 กันยายน 2567

14 เครื่องมือ AI ที่ชาวออฟฟิศต้องมี ช่วยให้ทำงานง่ายสบายกว่าเดิม

16 กันยายน 2567

รู้จักกับ RESUME, CV และ PORTFOLIO พร้อมเคล็ดลับการสร้างสรรค์ให้โดนใจ HR

10 กันยายน 2567

โลกในปี 2025 จะเป็นอย่างไร 10 เมกะเทรนด์เปลี่ยนโลกที่ต้องจับตา

04 กันยายน 2567

ทักษะ "Soft Skills" ที่จําเป็นต้องพัฒนาสู่ปี 2025 จากมุมมองของนักการตลาด

29 สิงหาคม 2567

"10 อันดับ" อาชีพอินเทรนด์ในปี 2567 มีแนวโน้มเติบโต..ไม่จม..ไม่หาย..แถมทำรายได้ดี !

07 พฤษภาคม 2567

ึึ7 เทรนด์ขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีที่องค์กรทั่วโลกต้องกลับมาทบทวนเพื่อประยุกต์ใช้ในปี 2567

22 กุมภาพันธ์ 2567

วิธีรับมือ 7 คำถาม “สัมภาษณ์งาน” ที่คนสมัครงานมักจะต้องเจอ

22 กุมภาพันธ์ 2567

อัปเดต 5 เทรนด์การทำงานประจำปี 2024

18 เมษายน 2566

ส่องเทรนด์อาชีพปี 66 พบ 14 อาชีพรุ่ง-5 อาชีพร่วง

18 เมษายน 2566

“แค๊บหมู” ทำกินเองได้ ทำขายรายได้ดี

กิจกรรม

04 เมษายน 2568

อมตะซิตี้ ระยอง ร่วมกิจกรรมจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง

31 มีนาคม 2568

อมตะจับมือซูมิโตโม รับเบอร์ ชวนพนักงานร่วมเป็นฮีโร่ กับโครงการ “100 ล้านซีซี โลหิตชาวอมตะเพื่อสภากาชาดไทย”

25 มีนาคม 2568

อมตะซิตี้ ชลบุรี ร่วมกับสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี จัดกิจกรรม Eco Green Network ประจำปี 2568
ติดต่อเรา
บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน)
  • 700 บางนา-ตราด กม. 57 อ.เมือง จ.ชลบุรี 20000
  • 03 893 9007
บริษัท อมตะซิตี้ ระยอง จำกัด
  • 7 ทางหลวงหมายเลข 331 กม. 39 อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20230
  • 03 849 7007
ข้อมูลติดต่อ
  • amatajobsonline@amata.com
ช่องทางการติดตาม