เว็บไซต์ Amata Jobs Online จัดทำขึ้นโดย บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ อมตะ (AMATA) ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย ตั้งอยู่จังหวัดชลบุรี และ ระยอง มีโรงงานประกอบกิจการกว่า 1,100 แห่ง สามารถสร้างอาชีพให้กับคนในประเทศมากกว่า 250,000 อัตรา ถือว่าเป็นตลาดงานใหญ่อันดับต้นๆของประเทศ ซึ่งมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
สร้างเรซูเม่สมัครงานฟรี ให้คุณยืนหนึ่งด้วยการนำเสนอตัวตนที่โดดเด่น เพิ่มโอกาสให้คุณได้งาน สร้างเรซูเม่ของตัวเองขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดาย ทำเรซูเม่ที่สวยงาม และใช้งานได้จริง หมดปัญหากับการสร้างเรซูเม่ที่สวย แต่ส่งไปสมัครงานแล้วแป๊กทุกที พร้อมถึงระบบช่วยกรอกเรซูเม่ ที่จะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจในทุกส่วนของข้อมูลเรซูเม่ และสามารถกรอก ข้อมูลได้ละเอียดที่สุด
สร้างเรซูเม่อมตะซิตี้ ชลบุรี
เชื่อว่าหลายๆ คนก่อนสัมภาษณ์งานจริงๆ คงมีความกังวลกันทุกคน ไม่ว่าจะสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษหรือสัมภาษณ์เป็นภาษาไทย และเราควรจะเตรียมความพร้อมอย่างไร? เมื่อต้องเจอกับคำถามต่างๆ ที่เราอาจจะคาดเดาไม่ถูก วันนี้ทางเพจจะมาช่วยเพื่อนๆ เตรียมความพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษกันการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์การสัมภาษณ์งานกับชาวต่างชาติไม่ว่าจะเป็น ฝรั่ง หรือ เอเชีย สิ่งที่ผู้สัมภาษณ์ (interviewer) คาดหวังและมองหาจากผู้ถูกสัมภาษณ์ (candidate) คือSmart and Professional look=การแต่งกายที่สุภาพตามแบบธุรกิจสากลให้เกียรติสถานที่ทำงาน และ ผู้สัมภาษณ์Confidence= ความมั่นใจ บุคลิกภาพ และ ที่สำคัญมากๆคือแววตาครับเดินให้สง่ากระชับกระเฉงแววตามุ่งมั่นเวลาพูดให้สบตาเข้าไปในแนวตาของผู้สัมภาษณ์เพื่อสื่อให้ถึงความจริงใจและมุ่นมั่นSkill and work experience= ความสามารถ และ ประสบการณ์ของเราครับ ซึ่งข้อนี้แอดมินอยากให้เพื่อนๆRole play หรือเป็นการณ์แสดงบทบาทสมมุติเป็น Sale ที่จะพรีเซนต์ขายตัวเองให้บริษัทเกิดความชอบเรา อยากที่จะจ้างเรา ตามค่าจ้างที่เราร้องขอครับ9คำถามยอดฮิตที่เรามักจะถูกสัมภาษณ์ (interview)1. Tell me a little bit about yourself.– บอกฉันสักเล็กน้อยเกี่ยวกับตัวคุณเป็นการที่ผู้สัมภาษณ์เกี่ยวกับตัวเรามากยิ่งขึ้นโดยคือการให้เราแนะนำตัวเองนั่นเอง ซึ่งการแนะนำตัวเองของเราในที่นี้สิ่งที่ผู้สัมภาษณ์ต้องการรู้ก็คือ ตัวเราในมุมมองของการทำงาน จะไม่ใช่การแนะนำตัวเองแบบทั่วๆไปตัวอย่างการตอบคำถามI studied Communication Arts at Bangkok University.– ฉันเรียนนิเทศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพI enjoy creating and publishing content on social media.– ฉันสนุกกับการสร้างสรรค์และ เผยแพร่เนื้อหาต่างๆบนโซเชียลมีเดียI have been an internship in a marketing company for 6 months.– ฉันเคยฝึกงานในบริษัทการตลาดเป็นเวลา 6 เดือน2. How did you hear about this position?–คุณรู้หรือได้ยินเกี่ยวกับตำแหน่งนี้ได้อย่างไรตัวอย่างการตอบคำถามI found an advertisement for the job on the internet.– ฉันเจอโฆษณาเกี่ยวกับการสมัครงานนี้บทอินเทอร์เน็ตI found this position on the company website.– ฉันเจองานตำแหน่งนี้อยู่บนเว็ปไซต์ของบริษัท3. Why are you interested in this position?– ทำไมคุณถึงสนใจในตำแหน่งงานนี้สิ่งที่ผู้สัมภาษณ์อยากจะรู้จากคำถามนี้ก็คือ ตัวเราเหมาะกับตำแหน่งนี้ขนาดไหน ทำไมเราถึงเหมาะกับตำแหน่งงานนี้ ซึ่งสิ่งที่เพื่อนๆควรจะบอกผู้สัมภาษณ์ก็คือ ความสามารถที่เรามี มันตรงกับตำแหน่งนี้นะ หรือว่า เราอาจจะบอกว่าตำแหน่งนี้แหละคือตำแหน่งที่เราถนัดที่สุดในการที่จะทำงานตัวอย่างการตอบคำถามI have always been interested to work in this field for a long time.– ฉันมีความสนใจที่จะทำงานในตำแหน่งนี้/ในด้านนี้ เป็นเวลานานแล้ว *(เพื่อจะให้ผู้สัมภาษณ์รู้ว่าเราสนใจด้านนนี้โดยเฉพาะ และ เราเตรียมตัวเพื่อที่จะมาทำงานด้านนี้โดยเฉพาะ)I think this position fits with my ability and my goal in this company.– ฉันคิดว่าตำแหน่งงานนี้ตรงกับความสามารถที่ฉันมี และ ตรงกับเป้าหมายที่ฉันตั้งใจไว้ในบริษัทนี้ *(เพื่อที่จะทำให้ผู้สัมภาษณ์เชื่อว่าเราสามารถที่จะทำงานนี้ได้)4. Why should we hire you?– ทำไมเราถึงต้องจ้าง หรือ เลือกคุณเข้ามาทำงานคำถามนี้เป็นอีกหนึ่งคำถามที่ถ้าทายมากๆ ซึ่งเพื่อนๆจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม และ ต้องมั่นใจกับคำตอบของเราว่า ใช่คุณต้องจ้างฉันสิ เพราะฉันมีความสามารถแบบนี้นะ และ ฉันเหมาะกับงานตำแหน่งนี้มากๆ ซึ่งจุดประสงค์ของผู้สัมภาษณ์คือ ต้องการที่จะเห็นว่าเร่ามั่นใจแค่ไหน กับการทำงานในตำแหน่งนี้ เรามั่นใจในตัวเองแค่ไหนว่าเรามีความสามารถที่จะทำงานในตำแหน่งนั้นจริงๆตัวอย่างการตอบคำถามI have the experience and I assure you that I will give my best for the job. – ฉันมีประสบการณ์ และ ฉันขอให้คุณมั่นใจได้เลยว่าฉันจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่องานนนี้I believe that my experience with technology, specifically in the web design space, make me the best match for this position. In my previous job, I was responsible for maintaining and updating our company website. This required keeping employee profiles updated and continuously posting information regarding upcoming events. I truly enjoyed what I was doing, which is what drew me to this position with your company. I would love to bring the coding and content skills I learned there to this position. – ฉันเชื่อว่าประสบการณ์ของฉันกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะในด้านการออกแบบเว็บ ทำให้ฉันเหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากที่สุด ในงานก่อนหน้านี้ ฉันมีหน้าที่ดูแลและปรับปรุงเว็บไซต์ของบริษัท เกี่ยวกับการทำให้โปรไฟล์พนักงานอัพเดตอยู่ตลอด และ โพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฉันสนุกกับสิ่งที่ฉันทำมากๆ ซึ่งมันดึงดูดให้ฉันมาสนใจอยู่ในตำแหน่งนี้กับบริษัทของคุณ ฉันจึงอยากที่จะนำทักษะการเขียนโค้ด และ ทักษะการเขียนเนื้อหา และ คอนเทนต์ ที่ฉันได้เรียนรู้มาสู่ตำแหน่งนี้5. What are your strengths and weaknesses?– อะไรคือจุดแข็ง และ จุดด้อยของคุณตัวอย่างการตอบคำถามI am a proactive person and a problem solver.– ฉันเป็นคนที่มีความกระตือรือร้น และ เป็นคนที่ชอบแก้ไขปัญหาต่างๆSometimes I focus too much on details and it takes more time to get the job done.– บางครั้งฉันโฟกัสในดีเทลในรายละเอียดของงานมากเกินไป และ มันทำให้ใช้เวลานานในการที่จะทำให้งานๆนึงเสร็จสมบูรณ์6. Where do you see yourself in 5 years?– คุณเห็นตัวเองอยู่ในจุดไหนในอีก5 ปีข้างหน้าตัวอย่างการตอบคำถามBy then I will have improved a lot and will have become a team leader.– ในตอนนั้นฉันก็คงจะพัฒนาขึ้นมาก และ ฉันก็คงจะกลายเป็นหัวหน้าทีม7. Why do you want to work here?– ทำไมคุณถึงอยากมาทำงานที่นี่ตัวอย่างการตอบคำถามI have always wanted to work here because I believe I will have achieved my goal here and grow together with the company.– ฉันต้องการจะทำงานที่นี่มาตลอดเลยเพราะว่าฉันเชื่อว่าฉันจะสามารถบรรลุเป้าหมายของฉันที่นี่ได้ และ เติบโตไปพร้อมๆกับบริษัทได้8. Why Did YouLeaveYour Last Job?– ทำไมคุณถึงออกจากงานที่เก่าตัวอย่างการตอบคำถามThere isn’t room for growth with my current employer, and I’m ready to move on to a new challenge.– ฉันไม่มีโอกาสได้ก้าวหน้าในที่ทำงานเดิมเลย และฉันเองพร้อมแล้วที่จะเจอความท้าทายใหม่ๆI found myself bored with the work and looking for more challenges. I am an excellent employee, and I didn’t want my unhappiness to have any impact on the job I was doing for my employer.– ฉันพบว่าฉันเบื่องานเดิมและต้องการมองหาความท้าทายใหม่ๆ ฉันเป็นลูกจ้างที่ดีนะ และฉันไม่ต้องการให้ “ความรู้สึกไม่มีความสุข” ของฉันนั้นมากระทบกับงานที่ทำที่บริษัทเดิม9. Do you have any questions for me?– คุณมีคำถามอะไรจะถามฉันไหมตัวอย่างการตอบคำถามCan you tell me about the job?– คุณช่วยพูดเกี่ยวกับงานนี้ให้ฉันฟังได้ไหมWhat is the most enjoyable part about working here?– อะไรคือส่วนที่สนุกที่สุดเกี่ยวกับการทำงานที่นี่What kind of tasks will be my primary concern?– งานประเภทใดที่เราต้องให้ความสนใจเป็นอันดับแรกCan you tell me a little bit about the team I will work with?– คุณช่วยบอกเกี่ยวกับทีมงานที่ฉันจะร่วมงานด้วยได้ไหมสรุปไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาไทย เราอยากให้เพื่อนๆได้เตรียมตัวฝึกซ้อมก่อนทุกครั้งก่อนที่จะเริ่มสัมภาษณ์งานในวันจริง อาจจะเป็นการฝึกซ้อมดูบุคลิกภาพ และ ท่าทางของตนเองในระหว่างที่พูดออกมา ควรมีความมั่นใจ พยายามขายและบอกจุดเด่นและประสบการณ์การทำงานของเรามาให้ดีและมากที่สุด เพื่อที่จะทำให้ผู้สัมภาษณ์เราเกิดความประทับใจ และ อยากที่จะให้เรามาร่วมงานกับเขานั่นเองที่มา : 9 คำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ สัมภาษณ์ทีไรเจอแน่นอน ตอบยังไงไปดูกัน
อ่านเพิ่มเติมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแถลงข้อมูลรายงาน“Future of Jobs 2025”ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นตัวแทนหนึ่งเดียวในประเทศไทยร่วมกับWorld Economic Forumในการเสนอแนวทางเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานในระหว่างปี พ.ศ.2568–2573รายงานนี้อ้างอิงจากการสำรวจ1,000 บริษัท ครอบคลุมพนักงาน14 ล้านคน ใน22 อุตสาหกรรม จาก55 ประเทศทั่วโลก โดยมีผลการวิเคราะห์ที่สำคัญดังนี้ตำแหน่งงานใหม่170 ล้านตำแหน่ง จะเกิดขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม92 ล้านตำแหน่งงาน จะหายไป เนื่องจากระบบอัตโนมัติและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจการเติบโตสุทธิของการจ้างงานคิดเป็น7% หรือเท่ากับ78 ล้านตำแหน่งงานทั่วโลกปัจจัยสำคัญที่เปลี่ยนแปลงตลาดแรงงานในปี 2573โดยเรียงลำดับความสำคัญ ดังนี้การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีAI หุ่นยนต์ และนวัตกรรมด้านพลังงานเป็นปัจจัยหลักที่เปลี่ยนแปลงบทบาทงานและทักษะการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกระตุ้นความต้องการวิศวกรสิ่งแวดล้อมและพลังงานหมุนเวียนความผันผวนทางเศรษฐกิจค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจเป็นความท้าทายสำคัญการเปลี่ยนแปลงด้านประชากรประชากรสูงอายุในประเทศรายได้สูงและแรงงานขยายตัวในประเทศรายได้ต่ำปรับเปลี่ยนตลาดแรงงานการแบ่งแยกทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศข้อจำกัดทางการค้าและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลต่อรูปแบบธุรกิจทักษะในอนาคตของประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกภายในปี พ.ศ.2573 สองในห้าของทักษะที่มีอยู่จะถูกเปลี่ยนแปลง ทักษะที่สำคัญของไทย คือ ทักษะด้านAI และBig Data ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ ทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์ ทักษะด้านเครือข่ายและความปลอดภัยทางข้อมูล ในขณะที่ระดับโลกเน้นทักษะด้านAI และBig Data ทักษะด้านเครือข่ายและความปลอดภัยทางข้อมูล ความฉลาดในการใช้งานเทคโนโลยี และทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์กลยุทธ์สำคัญ5 ประการสำหรับประเทศไทยสร้างการเปลี่ยนแปลงแบบ Holistic Skill Change: ยกเครื่องการUpskill ของบุคลากรในมิติ ไม่ใช่ทักษะใดทักษะหนึ่งเท่านั้นสร้างองค์กรให้เป็น Future-Ready Organizationที่ต้องมีระบบการพัฒนาทักษะอนาคตของบุคลากรHuman Replacementงานที่ซ้ำซากให้เลิกใช้คน และทดแทนด้วยระบบAutomationEnhancing Dynamic Work Roleมีการส่งเสริมให้ไม่ยึดติดกับบทบาทการทำงานในแบบเดิม ๆ แต่มีการปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาผสานเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้เข้ากับการทำงาน: เชื่อมโยงเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อสร้างนวัตกรรมที่เพิ่มคุณค่าและความสามารถในการแข่งขันศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร ยังกล่าวด้วยว่า “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก้าวสู่การเป็น “The University of AI” มหาวิทยาลัยแห่งนี้มุ่งสร้าง “คนพันธุ์ใหม่” หรือ “Future Human” ที่ไม่ได้เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญในการใช้งาน AI (Artificial Intelligence) แต่ยังเปี่ยมด้วยทักษะที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง II (Instinctual Intelligence) หรือ “ปัญญาสัญชาตญาณ” ซึ่งสร้างสรรค์ปัญญาที่ไม่อาจประดิษฐ์ขึ้นได้ ที่สำคัญ ‘คนพันธุ์ใหม่’ จะต้องไม่ได้มีเพียงสมองที่ชาญฉลาด แต่ต้องมีหัวใจที่ดีงาม ที่จะเปลี่ยนความสามารถทางเทคโนโลยีให้เป็นพลังที่สร้างคุณค่าแก่ทั้งตนเองและสังคม”ที่มา : The Future of Jobs 2025 – จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อ่านเพิ่มเติมคนทำงาน จะประสบความสำเร็จได้ด้วยความขยัน + กลยุทธ์ที่ถูกต้องเป็นเรื่องธรรมดาของคนทำงานทั่วๆ ไปหรือ “มนุษย์เงินเดือน” ในโลกของการทำงานที่อยากจะทำงานแล้วประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ได้เลื่อนตำแหน่งมีความก้าวหน้า จนสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองและครอบครัวผ่านการทำงานหนักในองค์กรใหญ่แต่เป้าหมายทั้งหมดนี้อาจไม่เป็นจริงเสมอไป หากปราศจากกลยุทธ์ที่ถูกต้องเมื่อพูดถึงคำว่า “กลยุทธ์” หลายคนอาจนึกถึงผู้บริหารระดับสูงหรือเจ้าของธุรกิจ แต่ในความเป็นจริง กลยุทธ์สามารถนำมาใช้กับทุกระดับของการทำงานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมนุษย์เงินเดือนทั่วไป การมีแนวคิดเชิงกลยุทธ์จะช่วยให้เราก้าวข้ามจากการเป็นแค่พนักงานธรรมดา ไปสู่การเป็นบุคลากรที่องค์กรขาดไม่ได้หากเปรียบเทียบโลกของการทำงานกับพีระมิด เราจะเห็นว่ามีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุด คนเหล่านั้นมีแนวคิดและวิธีการทำงานที่แตกต่างจากคนทั่วไป และสิ่งสำคัญที่ทำให้พวกเขาโดดเด่นก็คือ การสร้างผลงานที่มีประสิทธิภาพสูงในระยะยาว (Superior Long-Term Performance)3องค์ประกอบของความสำเร็จในอาชีพในโลกของธุรกิจ ความสำเร็จมักถูกวัดจาก กำไร การเติบโต และความยั่งยืน ซึ่งแนวคิดเดียวกันนี้สามารถนำมาปรับใช้กับการทำงานได้เช่นกัน1.กำไร (รายได้) : ในบริบทของคนทำงาน กำไรหมายถึงรายได้ที่ได้รับ คนที่สร้างผลงานได้โดดเด่น ย่อมมีโอกาสเรียกร้องค่าตอบแทนที่สูงขึ้น2.การเติบโต (ความก้าวหน้าในอาชีพ) : ความก้าวหน้าไม่ได้หมายถึงเพียงการเลื่อนตำแหน่ง แต่รวมถึงการได้รับโอกาสใหม่ๆ ที่จะพัฒนาทักษะและความสามารถของตนเอง3.ความยั่งยืน (ความมั่นคงในการทำงาน) : คนที่มีความสามารถและคุณค่าต่อองค์กรจะสามารถรักษาตำแหน่งงานไว้ได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกแทนที่ง่ายๆคำถามคือ แล้วเราจะสามารถบรรลุ3 องค์ประกอบดังกล่าวได้อย่างไร?ในเมื่อทุกคนมีเวลาเท่ากันคือ24 ชั่วโมงต่อวัน สิ่งที่ทำให้คนหนึ่งประสบความสำเร็จมากกว่าอีกคนคือ วิธีการใช้เวลา คนที่ประสบความสำเร็จมักใช้เวลาของพวกเขาไปกับกิจกรรมที่สร้างคุณค่าและผลลัพธ์ที่จับต้องได้การทำงานที่มีประสิทธิภาพ (Efficiency) คือ การทำสิ่งต่างๆ ให้ถูกต้อง (Do Things Right)แต่ที่สำคัญกว่าคือการทำงานอย่างมีประสิทธิผล (Effectiveness) ซึ่งหมายถึง การทำสิ่งที่ถูกต้อง (Do the Right Things)ในการทำงาน หลายคนมักให้ความสำคัญกับ “ประสิทธิภาพ” (Efficiency) เพราะเชื่อว่าการทำงานอย่างรวดเร็ว เป็นระเบียบ และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าจะนำไปสู่ความสำเร็จ แต่ในความเป็นจริง สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ “ประสิทธิผล” (Effectiveness) เพราะการทำงานอย่างมีประสิทธิผลคือการเลือกทำสิ่งที่ถูกต้อง และสร้างผลลัพธ์ที่แท้จริงให้เกิดขึ้นลองนึกภาพพนักงานสองคนที่ต้องจัดทำรายงานส่งผู้บริหารคนแรก ใช้เวลา3 ชั่วโมงในการจัดทำรายงานที่ละเอียดมาก ตัวเลขเป๊ะ กราฟดูดี และทุกอย่างเป็นระเบียบสุดๆ แต่ปัญหาคือ เนื้อหาของรายงานไม่ได้ตอบโจทย์สิ่งที่ผู้บริหารต้องการใช้ตัดสินใจคนที่สอง ใช้เวลาเพียง1 ชั่วโมง จัดทำรายงานที่เน้นเฉพาะประเด็นสำคัญที่ผู้บริหารต้องใช้ในการตัดสินใจ แม้ว่ากราฟอาจจะไม่สวยเป๊ะเท่าคนแรก แต่รายงานของเขากลับได้รับการนำไปใช้จริงในตัวอย่างนี้ คนแรกอาจมี “ประสิทธิภาพ” มากกว่า เพราะเขาทำงานออกมาอย่างละเอียดและเรียบร้อย แต่คนที่สองมี “ประสิทธิผล” มากกว่า เพราะเขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง ตรงจุดประสงค์ และให้ผลลัพธ์ที่มีค่ากว่านั่นเองทำไม “ประสิทธิผล” จึงสำคัญกว่าประสิทธิภาพ?ทำถูกวิธี ≠ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการซึ่งการทำงานอย่างมีระเบียบไม่ได้แปลว่าจะนำไปสู่ความสำเร็จเสมอไปหากคุณทำงานที่ไม่จำเป็นหรือไม่สำคัญต่อให้ทำได้ดีแค่ไหนก็อาจไม่มีผลกระทบต่อเป้าหมายที่แท้จริงโลกของงานวัดกันที่ผลลัพธ์ ไม่ใช่แค่ความขยัน โดยคนที่ทำงานหนักอาจได้รับคำชม แต่คนที่สร้างผลลัพธ์ที่มีคุณค่าให้กับองค์กรจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง และมีรายได้ที่สูงขึ้นทรัพยากรและเวลามีจำกัด ต้องใช้ให้คุ้ม เพราะในชีวิตการทำงาน เรามีทั้งเวลาและพลังงานที่จำกัด การเลือกทำสิ่งที่สำคัญก่อน และทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็น จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นกลยุทธ์ในการสร้างความได้เปรียบในการทำงานดังนั้นเพื่อให้ตัวเองโดดเด่นจากคนอื่นๆ ในองค์กร มีหลักคิดที่สามารถนำไปใช้ได้ดังนี้หาโอกาสที่เหมาะสม : มองหาการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อม เทรนด์ตลาด หรือโอกาสใหม่ๆ ที่จะช่วยให้คุณเติบโตพัฒนาจุดแข็งของตัวเอง : ใช้เครื่องมืออย่างStrength Finderเพื่อค้นหาว่าคุณมีความสามารถเด่นด้านใด และนำมาพัฒนาให้กลายเป็นข้อได้เปรียบลงมือทำทันที : ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นจากการคิดอย่างเดียว ต้องมีการลงมือทำจริง พร้อมปรับตัวและเรียนรู้จากข้อผิดพลาดบริหารความเร็ว : ในโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว คนที่ลงมือทำก่อน ย่อมมีโอกาสมากกว่า แม้ว่าจะยังไม่สมบูรณ์แบบ100%ท้ายที่สุดนี้ คนทำงานที่ต้องการความสำเร็จต้องเริ่มต้นจาก การมีแนวคิดเชิงกลยุทธ์ ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน พัฒนาทักษะที่มีค่า และบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือลงมือทำโดยไม่รอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบลองจินตนาการถึงตัวเองในอีก5 ปี10 ปี หรือ20 ปีข้างหน้า คุณอยากให้ชีวิตของตัวเองเป็นแบบไหน? ถ้าวันนี้คุณทำงานแบบสบายๆ ไม่พยายามพัฒนาตัวเองเลย อนาคตของคุณจะเป็นอย่างไร?แนวคิดนี้คล้ายกับหลักการของเครื่องบิน เวลาที่ต้องทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า มันต้องใช้พลังงานสูงสุด แต่เมื่อขึ้นไปถึงระดับความสูงที่เหมาะสมแล้ว การบินจะราบรื่นขึ้น หากเปรียบเทียบกับชีวิตการทำงาน ถ้าเราเต็มที่กับงานในช่วงแรก สร้างรากฐานที่มั่นคง เมื่อถึงจุดหนึ่ง เราจะสามารถ “บิน” ได้อย่างมั่นคงและมีความสุขที่มา : กลยุทธ์ 'คนทำงาน' เงินพุ่ง งานรุ่ง ใครก็แทนไม่ได้ – THE STANDARD
อ่านเพิ่มเติมทีม CSR อมตะซิตี้ ระยอง ลงพื้นที่ร่วมกับชุมชน ต.นิคมพัฒนา อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ทำกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” เพื่อทำความสะอาด โดยชุมชนกว่า 500 คน ร่วมกันเก็บขยะ และทำความสะอาดศาลาเอนกประสงค์หน้าที่ว่าการอำเภอนิคมพัฒนา โดยอมตะได้สนับสนุนน้ำดื่มอมตะเพื่อให้บริการผู้ที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
อ่านเพิ่มเติมสถานการณ์การจ้างงานในประเทศไทยในปัจจุบันมีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเทคโนโลยีและดิจิทัลที่ยังคงมีความต้องการแรงงานสูง ในขณะที่บางอุตสาหกรรมดั้งเดิมอาจประสบปัญหาการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีนอกจากนี้ การจ้างงานในกลุ่มSME มีความท้าทายเรื่องงบประมาณและทรัพยากร ทำให้ความต้องการจ้างงานส่วนใหญ่อาจเน้นไปที่ตำแหน่งงานที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพหรือรายได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน ผู้สมัครงานเองก็กำลังมองหาความสมดุลระหว่างเงินเดือน สวัสดิการ และโอกาสการพัฒนาตนเองสิ่งสำคัญที่เห็นได้ชัดคือการที่ผู้หางานส่วนใหญ่เริ่มหันมาใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลมากขึ้น เนื่องจากความสะดวกและการเข้าถึงข้อมูลที่หลากหลาย แถมยังมีAI มาช่วยMatch คนกับงานที่เหมาะสม ทำให้แพลตฟอร์มออนไลน์ มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างนายจ้างและผู้หางานอย่างมีประสิทธิภาพค่ะงานอะไรที่คนสมัครหรือมองหามากที่สุดในตอนนี้จากข้อมูลในปัจจุบัน ตำแหน่งงานที่ได้รับความนิยมและมีผู้สมัครงานสนใจมากที่สุดในประเทศไทยมีดังนี้ค่ะ1.งานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)ตำแหน่งงานในสายนี้ เช่น โปรแกรมเมอร์, นักพัฒนาซอฟต์แวร์, และวิศวกรด้านAI หรือData Scientist ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากทุกองค์กรกำลังปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล2.งานด้านการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing)นักการตลาดที่มีทักษะในด้าน SEO, Content Creation, และการวิเคราะห์ข้อมูลตลาดเป็นที่ต้องการ เนื่องจากการตลาดออนไลน์กลายเป็นหัวใจสำคัญของทุกธุรกิจ3.งานขายและพัฒนาธุรกิจ (Sales & Business Development)ตำแหน่งงานขายยังคงเป็นที่ต้องการเสมอ โดยเฉพาะในสายB2B และE-commerce4.งานด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน (Logistics & Supply Chain)การเติบโตของ E-commerce ทำให้ความต้องการบุคลากรในด้านนี้เพิ่มขึ้น เช่น ผู้จัดการคลังสินค้า และผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการซัพพลายเชน5.งานด้านการเงินและการวิเคราะห์ข้อมูล (Finance & Data Analysis)นักวิเคราะห์ทางการเงิน, นักบัญชี, และนักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) ยังคงเป็นตำแหน่งที่มีผู้สนใจอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทุกองค์กรต้องการข้อมูลเชิงลึกเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจรายได้ค่าตอบแทน ตอนนี้เฉลี่ยเงินเดือนของไทยอยู่ที่เรตไหนเงินเดือนเฉลี่ยในประเทศไทยในปัจจุบันจะแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ อุตสาหกรรม และตำแหน่งงานค่ะ โดยหากพูดถึงภาพรวมเงินเดือนในตลาดงานทั่วไป เราสามารถแบ่งคร่าว ๆ ตามกลุ่มได้ดังนี้1.นักศึกษาจบใหม่ (Fresh Graduates)เงินเดือนเริ่มต้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20,000-25,000 บาทต่อเดือน โดยสายงานที่ต้องการทักษะเฉพาะ เช่นIT หรือวิศวกรรม อาจได้รับค่าตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ย2.สายงานระดับกลาง (Mid-level)สำหรับคนที่มีประสบการณ์ 3-5ปี เงินเดือนเฉลี่ยจะอยู่ในช่วง30,000-50,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง เช่น การตลาด,การขาย,หรือสายงานวิเคราะห์ข้อมูล3.สายงานระดับผู้บริหาร (Management)ตำแหน่งระดับผู้จัดการขึ้นไปจะมีเงินเดือนเฉลี่ยประมาณ 70,000-150,000บาทต่อเดือน หรือสูงกว่านั้นในอุตสาหกรรมที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ เช่น การเงิน,เทคโนโลยี,และการแพทย์นอกจากนี้ ในอุตสาหกรรมที่มีความต้องการแรงงานสูง เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT),การตลาดดิจิทัล,หรือ งานด้านวิศวกรรม เงินเดือนเฉลี่ยอาจสูงกว่ากลุ่มอื่นอย่างชัดเจน ตัวเลขดังกล่าวเป็นค่าเฉลี่ยเบื้องต้น และค่าตอบแทนจริงอาจแตกต่างกันไปตามทักษะ ประสบการณ์ และความซับซ้อนของงานสายอาชีพไหนที่ได้รับค่าตอบแทนสูง หรือมีการปรับเงินเดือนในแต่ละปีค่อนข้างสูงสายอาชีพที่ได้รับค่าตอบแทนสูงและมีการปรับเงินเดือนในแต่ละปีอย่างต่อเนื่องมักจะเกี่ยวข้องกับทักษะที่เป็นที่ต้องการในตลาดแรงงานและมีความเฉพาะทางสูง1.เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)และวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) ตำแหน่งอย่างData Scientist, AI Engineer, และCybersecurity Specialist มีเงินเดือนเริ่มต้นสูง และมักได้รับการปรับขึ้นทุกปี เนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีและความต้องการทักษะด้านนี้2.การเงินและการลงทุน (Finance & Investment)นักวิเคราะห์การเงิน (Financial Analyst), ที่ปรึกษาการลงทุน (Investment Consultant), หรือผู้จัดการกองทุน (Fund Manager) เป็นกลุ่มที่มีรายได้สูง รวมถึงโบนัสที่ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานในแต่ละปี3.การแพทย์และสาธารณสุข (Healthcare)แพทย์เฉพาะทาง, ทันตแพทย์, และนักวิจัยทางการแพทย์ มักมีค่าตอบแทนสูง รวมถึงการปรับเพิ่มตามประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ4.การตลาดดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซ (Digital Marketing & E-commerce)ตำแหน่งอย่างDigital Marketing Specialist หรือE-commerce Manager มีแนวโน้มการเติบโตของเงินเดือน เนื่องจากธุรกิจออนไลน์ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง5.วิศวกรรม (Engineering)วิศวกรในสายAutomation และอื่นๆ จะได้รับค่าตอบแทนค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเทรนด์การจ้างงานหรือหางานเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหนในยุคนี้เทรนด์การจ้างงานและการหางานในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนตามพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่และการปรับตัวขององค์กร เห็นได้ชัดเจน5 เรื่อง คือ1.คนรุ่นใหม่กับการทำงาน คนรุ่นใหม่ (Gen Z)เริ่มให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้น ทำให้ งานฟรีแลนซ์ หรือการทำงานแบบRemote Working ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากสามารถจัดการเวลาได้เองและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ต้องการสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว (Work-Life Balance) อย่างไรก็ตาม คนรุ่นใหม่บางส่วนยังมองหางานประจำที่มั่นคง หากองค์กรสามารถมอบโอกาสการพัฒนาทักษะและสร้างเส้นทางอาชีพที่ชัดเจนได้2.การจ้างงานในองค์กรองค์กรเริ่มมีแนวโน้มที่จะจ้างงานแบบสัญญาจ้าง (Contract) มากขึ้น โดยเฉพาะในโครงการที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทางหรือช่วงเวลาสั้น ๆ เช่น งานด้านเทคโนโลยี หรือการตลาดดิจิทัล ขณะเดียวกัน งานประจำยังคงมีบทบาทสำคัญในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างหลักของบริษัท เช่น การเงิน, การบริหารทรัพยากรบุคคล, การตลาดหรือการขาย3.เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการหางานและจ้างงานเพิ่มมากขึ้น ช่วยให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงโอกาสได้ง่ายขึ้นและสามารถเลือกงานที่เหมาะกับทักษะและความสนใจของตนเอง4.ความต้องการด้านทักษะองค์กรในปัจจุบันมองหาพนักงานที่มีSoft Skills เช่น การแก้ปัญหา การสื่อสาร ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ควบคู่กับHard Skills ในสายงานเฉพาะทาง5.ทัศนคติและวัฒนธรรมองค์กรคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมองค์กรที่โปร่งใส มีเป้าหมายที่ชัดเจน และสนับสนุนความหลากหลาย ทำให้หลายบริษัทต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองความคาดหวังเหล่านี้โดยรวมแล้ว เทรนด์การจ้างงานในปัจจุบันสะท้อนถึงความยืดหยุ่นและความหลากหลายทั้งในแง่รูปแบบงานและทัศนคติของทั้งนายจ้างและผู้หางานมีเกณฑ์หรือสวัสดิการอะไร ที่ลูกจ้างส่วนใหญ่ต้องการหรือระบุมาในใบสมัครจากข้อมูลและแนวโน้มในปัจจุบัน ลูกจ้างส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับ สวัสดิการและเงื่อนไขการทำงาน ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการเงินและไลฟ์สไตล์มากขึ้น โดยเกณฑ์และสวัสดิการที่ได้รับความนิยมและถูกระบุบ่อยในใบสมัครหรือการสัมภาษณ์ ได้แก่ :1.โบนัสและค่าตอบแทนตามผลการทำงาน (Performance Bonus)การมีโบนัสที่ชัดเจนและโปร่งใสตามผลการดำเนินงานของบริษัทและพนักงาน เป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดผู้สมัครงาน2.Work From Home (WFH)และงานรีโมต (Remote Working)หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 พนักงานหลายคนยังคงมองหางานที่มีความยืดหยุ่นในการทำงานจากที่บ้าน หรือสามารถทำงานแบบรีโมตได้ โดยเฉพาะในสายงานด้านเทคโนโลยีและการตลาด3.ชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น (Flexible Working Hours)การกำหนดเวลาทำงานที่ไม่ตายตัวช่วยให้พนักงานบริหารเวลาได้ดีขึ้น และสร้างความสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว (Work-Life Balance)4.สวัสดิการสุขภาพ (Health Benefits)การมีประกันสุขภาพ, การตรวจสุขภาพประจำปี, หรือสวัสดิการดูแลสุขภาพจิต กำลังเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้น5.วันหยุดเพิ่มเติม (Additional Leave)ลูกจ้างหลายคนมองหาวันหยุดเพิ่มเติม เช่น วันลาพักร้อนที่มากกว่ากฎหมายกำหนด หรือวันลาในโอกาสพิเศษ เช่น วันลาเพื่อทำกิจกรรมอาสา6.การสนับสนุนด้านพัฒนาทักษะ (Learning & Development)สวัสดิการที่สนับสนุนการเรียนรู้ เช่น คอร์สออนไลน์, การอบรมทักษะ, หรือการสนับสนุนด้านการศึกษาต่อ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ดึงดูดพนักงานที่ต้องการพัฒนาตนเอง7.การสนับสนุนด้านอุปกรณ์ทำงาน (Work Equipment Support)การจัดเตรียมอุปกรณ์ทำงาน หรือการสนับสนุนค่าอินเทอร์เน็ตสำหรับการทำงานที่บ้าน8.วัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมความหลากหลายและความเท่าเทียม (Diversity & Inclusion)คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการทำงานในองค์กรที่ให้ความเคารพในความหลากหลายทางเพศ, วัฒนธรรม, และความเชื่อเกณฑ์และสวัสดิการเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของความคาดหวังจากคนทำงาน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่มองหาการทำงานที่ไม่ใช่แค่เรื่องเงินเดือน แต่ยังรวมถึงคุณภาพชีวิตและการพัฒนาตนเองที่มา : ฉายทิศทางตลาดงานปี 2025 งานไหนมาแรง เตรียมตัวอย่างไรไม่ให้เป็นคนตกงาน
อ่านเพิ่มเติมอมตะจับมือซูมิโตโม รับเบอร์ ชวนพนักงานร่วมเป็นฮีโร่ กับโครงการ “100 ล้านซีซี โลหิตชาวอมตะเพื่อสภากาชาดไทย"อมตะซิตี้ ระยอง ร่วมกับบริษัท ซูมิโตโม รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด และสภากาชาดไทย ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 จ.ชลบุรี จัดกิจกรรมบริจาคเลือดภายใต้โครงการ “100 ล้านซีซี โลหิตชาวอมตะเพื่อสภากาชาดไทย” โดยมีพนักงานชาวซูมิโตโม รับเบอร์ ร่วมบริจาคโลหิต 148 คน (จากผู้มาลงทะเบียน 170 คน) รวมปริมาณโลหิต 59,200 ซีซี เพื่อนำโลหิตไปช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป
อ่านเพิ่มเติม1. เลือกเฉพาะประสบการณ์ที่มีค่าที่สุด ในสายงานนั้นๆในขั้นตอนแรกสุดเลยก็คือ เมื่อคุณคิดว่าคุณมีประสบการณ์ทำงานมากพอที่จะเขียนลงไปในเรซูเม่ของตัวเองแล้วล่ะก็ ก่อนอื่นคุณต้องมั่นใจว่าสิ่งที่คุณจะเขียนลงไปมันมีค่าในสายตาของผู้อ่านเรซูเม่ ซึ่งก็คือพนักงานสรรหาบุคลากร และผู้ที่จะสัมภาษณ์งานคุณ ซึ่งส่วนมากแล้วก็จะเป็น Supervisor หรือผู้จัดการ หรือหัวหน้าในสายงานของคุณนั่นเอง อย่าเขียนประสบการณ์ดาดๆที่ใครก็ได้สามารถทำมันได้ แต่ให้เลือกเขียนเฉพาะประสบการณ์ที่มีค่ามากๆก็พอ2. เน้นประสบการณ์ที่ได้รับการยกย่อง หรือรางวัล (Achievement)ถ้าหากคุณได้รับรางวัลอะไรในสายงาน ไม่ว่าจะเป็นผลงานส่วนตัวหรือผลงานของทีม ไม่ว่ารางวัลนั้นจะใหญ่หรือเล็กแค่ไหน นี่แหล่ะคือสิ่งที่มีค่ามากๆที่ควรจะเขียนลงไปในเรซูเม่ แต่ถ้าคุณมีรางวัลมากล่ะก็ เลือกเขียนอันที่ใหญ่ที่สุดก่อน แล้วเรียงลำดับลงมาตามความสำคัญนะครับ3. ประสบการณ์ที่เกี่ยวกับเคส หรือลูกค้าที่โด่งดังในสายงานของคุณในทุกๆสายงานย่อมจะรู้จักกันเองข้ามบริษัท ไม่มากก็น้อย ดั่งคำพูดที่ว่า "วงการมันแคบกว่าที่คิด" ซึ่งสิ่งนี้ใช้ได้กับทุกวงการเลยล่ะ ถ้าคุณมีประสบการณ์เคยทำงานในเคสที่ใหญ่ หรือทำงานร่วมกับลูกค้าที่ใครๆก็บอกว่าเป็นตัวแม่ของวงการแล้ว หรือมีแต่รายชื่อลูกค้าดังๆแล้วล่ะก็ คุณเองก็จะเนื้อหอมเอามากๆเลย ใครๆก็สนใจอยากจะสัมภาษณ์คุณ4. ประสบการณ์ที่ผ่านมาไม่มีอะไรเด่น? ลองเขียนสิ่งที่ทำผ่านมาตรฐานดูสิครับในบางสายงาน อย่างเช่น งานวิศวกร ที่คุณไม่มีโอกาสได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ แต่คุณเป็นฟันเฟืองของบริษัทที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนองค์กรอยู่เบื้องหลังแล้วล่ะก็ คุณสามารถเขียนสิ่งที่คุณทำแล้วผ่านมาตรฐานต่างๆดูสิครับ สิ่งนี้เองก็มีความสำคัญไม่น้อยหน้าสายงานอื่นๆเลยครับ มาตรฐานนี้สามารถเป็นได้ตั้งแต่มาตรฐานระดับโลกอย่าง ISO ลงมาจนถึงมาตรฐานของโรงงานที่ตัวเองทำอยู่ได้เลย ขอเพียงเขียนชื่อมาตรฐานให้ถูก อย่าสะกดผิด หรืออย่าเขียนลอยๆว่า "มาตรฐาน" เฉยๆโดยที่ไม่ได้ใส่ชื่อให้มันก็พอ5. เขียนประสบการณ์ทำงานเรียงเป็นลำดับ เอาล่าสุดขึ้นก่อนประสบการณ์ทำงานในเรซูเม่เป็นแบบ เรียงตามเวลา โดยเอาอันล่าสุดขึ้นก่อน ส่วนของเก่าก็อยู่ล่างๆ เรียงกับอย่างเป็นระบบระเบียบ ซึ่งสิ่งนี้มีประโยชน์แฝงอยู่หลายข้อด้วยกัน นอกจากเพื่อที่จะให้อ่านง่ายแล้ว ผู้ที่อ่านเรซูเม่ของคุณยังมองว่าคุณมีความสามารถในการจัดระเบียบได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย6. เน้นคีย์เวิร์ด (คำค้น) ให้ชัดเจนเมื่อคุณเขียนเรซูเม่ของตัวเองและนำไปใช้ต่อ จะส่งให้ HR โดยตรง หรืออัพโหลดขึ้นเว็บไซท์สมัครงานต่างๆ คุณจะต้องคำนึงด้วยว่าพนักงานฝ่ายสรรหาบุคลากร จะค้นหาเจอเรซูเม่ของคุณได้อย่างไร ในกองเรซูเม่ขนาดใหญ่ที่พวกเขาได้รับในแต่ละวัน ซึ่งในยุคนี้ไม่มีใครเขาหยิบเรซูเม่มากองละหมื่นใบ แล้วมาอ่านกัน บริษัทส่วนใหญ่มีระบบดิจิทัลกันแล้ว ซึ่งสามารถค้นหาคำต่างๆที่ต้องการได้เพียงเสี้ยววินาที ดังนั้นสิ่งที่คุณจะต้องทำก็คือทำให้เรซูเม่ของตัวเอง สามารถค้นหาได้ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือแปลงเป็น PDF เท่านั้น ถ้าหากคุณส่งเป็นกระดาษ หรือทำเป็นรูปไปล่ะก็มันจะค้นหาด้วยคีย์เวิร์คไม่ได้ คุณก็จะเสียเปรียบตรงนี้ไปอย่างมหาศาลเลยล่ะถ้าต้องกรอกข้อมูลใหม่ ก็กรอกให้ครบ อย่าให้ขาด คนส่วนมากมักจะคิดว่าก็ส่งเรซูเม่ให้แล้ว ทำไมไม่อ่าน ทำไมยังต้องกรอกอีก ที่กรอกทั้งหมดนี้สามารถใช้ค้นหาได้อย่างรวดเร็วเลยล่ะครับ ถ้าคุณปล่อยว่างๆแล้วล่ะก็ เสียดายนะครับสะกดให้ถูก ใช้คำให้ถูก บางคำมีชื่อภาษาอังกฤษ ก็ใส่ไปเลยทั้งอังกฤษ ทั้งไทย เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะถูกค้นหาเจอเช่นถ้าคุณเป็นนักบัญชี และคุณเคยทำงานด้านตรวจบัญชีมาก่อน ก็ให้ว่า Audit หรือ Auditor ในภาษาอังกฤษ แล้วถ้าใส่คำภาษาไทยว่า "นักตรวจสอบบัญชี" ด้วยแล้ว ก็จะเพิ่มโอกาสในการถูกค้นหามากขึ้นไปอีกครับ7. เด็กจบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ ลองเขียนเรื่องการฝึกงานดูสิถ้าคุณเป็นเด็กจบใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ทำงานแล้วล่ะก็ ให้เขียนประสบการณ์ที่ได้รับตอนฝึกงานลงไปแทน หรือถ้าตอนเรียนคุณได้ทำงาน เฉพาะที่เกี่ยวข้องสายงานนะครับ ก็สามารถเขียนลงไปได้ เช่นถ้าคุณเรียนจบด้านสถาปนิกมา และต้องการสมัครงานสถาปนิก โดยที่ตอนเรียนอยู่เคยทำงานพาร์ทไทม์กับบริษัทออกแบบโครงสร้างอาคารแล้วล่ะก็ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างเป็นพนักงานเดินเอกสาร ก็ใส่มันลงไปเถอะครับที่สำคัญก็คือ อย่าใส่สิ่งที่ไม่จำเป็นกับตำแหน่งงานที่คุณสมัคร เพื่อแค่ให้เรซูเม่ดูเต็มๆ หรือมีอะไรเด็ดขาดนะ เพราะจะทำให้พนักงานฝ่ายสรรหาบุคลากรมองว่า คุณยังไม่ได้สนใจในสายงานนั้นๆขนาดนั้น แล้วก็เลือกที่จะให้โอกาสกับเด็กจบใหม่อีกคนที่เขียนประสบการณ์ตรงกับตำแหน่งงานมากกว่า8. ข้อมูลที่ดี มีการจัดระเบียบที่ดี มีค่ามากกว่าเรซูเม่สวยๆหลายๆคนก็คงจะเคย โหลดธีมเรซูเม่สวยๆ มาใช้บ้าง ใช่ไหมครับ เป็นเรื่องจริงที่ของสวยๆงามๆใครก็ชอบ แต่สวยแล้ว จะต้องมีข้อมูลที่ดี และการจัดระเบียบข้อมูลให้อ่านง่ายสบายตาที่มา : https://bestjob.in.th
อ่านเพิ่มเติมกิจกรรม Eco Green Networkอมตะ ร่วมกับสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี จัดกิจกรรม Eco Green Network ระหว่างวันที่ 20-21 มีนาคม 2568 เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างภาคอุตสาหกรรมและชุมชน โดยมีผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประธานกลุ่มวิสาหกิจจากพื้นที่โดยรอบนิคมฯ จำนวน 70 คน เข้าร่วมศึกษาดูงานด้านการบริหารจัดการกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และแนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เน้นการเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจและการแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างรายได้สถานที่ศึกษาดูงาน 2 แห่ง ได้แก่📍 กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแตนบาติก จ.ระยอง✅ เรียนรู้เทคนิคการย้อมผ้าด้วย น้ำทะเล แทนการใช้สีเคมี ส่งเสริมการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม📍 ศูนย์ส่งเสริมอาชีพการเกษตร จ.จันทบุรี✅ ศึกษาการเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้ให้กับชุมชน🌱 กิจกรรมครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมและชุมชน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่าง ยั่งยืน และขอบคุณพนักงานกลุ่มอมตะทุกท่านที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมดีๆ ครั้งนี้!
อ่านเพิ่มเติม