เว็บไซต์ Amata Jobs Online จัดทำขึ้นโดย บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ อมตะ (AMATA) ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย ตั้งอยู่จังหวัดชลบุรี และ ระยอง มีโรงงานประกอบกิจการกว่า 1,100 แห่ง สามารถสร้างอาชีพให้กับคนในประเทศมากกว่า 250,000 อัตรา ถือว่าเป็นตลาดงานใหญ่อันดับต้นๆของประเทศ ซึ่งมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
สร้างเรซูเม่สมัครงานฟรี ให้คุณยืนหนึ่งด้วยการนำเสนอตัวตนที่โดดเด่น เพิ่มโอกาสให้คุณได้งาน สร้างเรซูเม่ของตัวเองขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดาย ทำเรซูเม่ที่สวยงาม และใช้งานได้จริง หมดปัญหากับการสร้างเรซูเม่ที่สวย แต่ส่งไปสมัครงานแล้วแป๊กทุกที พร้อมถึงระบบช่วยกรอกเรซูเม่ ที่จะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจในทุกส่วนของข้อมูลเรซูเม่ และสามารถกรอก ข้อมูลได้ละเอียดที่สุด
สร้างเรซูเม่อมตะซิตี้ ชลบุรี
อมตะซิตี้ ระยอง
สถานการณ์การจ้างงานในประเทศไทยในปัจจุบันมีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเทคโนโลยีและดิจิทัลที่ยังคงมีความต้องการแรงงานสูง ในขณะที่บางอุตสาหกรรมดั้งเดิมอาจประสบปัญหาการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีนอกจากนี้ การจ้างงานในกลุ่มSME มีความท้าทายเรื่องงบประมาณและทรัพยากร ทำให้ความต้องการจ้างงานส่วนใหญ่อาจเน้นไปที่ตำแหน่งงานที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพหรือรายได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน ผู้สมัครงานเองก็กำลังมองหาความสมดุลระหว่างเงินเดือน สวัสดิการ และโอกาสการพัฒนาตนเองสิ่งสำคัญที่เห็นได้ชัดคือการที่ผู้หางานส่วนใหญ่เริ่มหันมาใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลมากขึ้น เนื่องจากความสะดวกและการเข้าถึงข้อมูลที่หลากหลาย แถมยังมีAI มาช่วยMatch คนกับงานที่เหมาะสม ทำให้แพลตฟอร์มออนไลน์ มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างนายจ้างและผู้หางานอย่างมีประสิทธิภาพค่ะงานอะไรที่คนสมัครหรือมองหามากที่สุดในตอนนี้จากข้อมูลในปัจจุบัน ตำแหน่งงานที่ได้รับความนิยมและมีผู้สมัครงานสนใจมากที่สุดในประเทศไทยมีดังนี้ค่ะ1.งานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)ตำแหน่งงานในสายนี้ เช่น โปรแกรมเมอร์, นักพัฒนาซอฟต์แวร์, และวิศวกรด้านAI หรือData Scientist ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากทุกองค์กรกำลังปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล2.งานด้านการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing)นักการตลาดที่มีทักษะในด้าน SEO, Content Creation, และการวิเคราะห์ข้อมูลตลาดเป็นที่ต้องการ เนื่องจากการตลาดออนไลน์กลายเป็นหัวใจสำคัญของทุกธุรกิจ3.งานขายและพัฒนาธุรกิจ (Sales & Business Development)ตำแหน่งงานขายยังคงเป็นที่ต้องการเสมอ โดยเฉพาะในสายB2B และE-commerce4.งานด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน (Logistics & Supply Chain)การเติบโตของ E-commerce ทำให้ความต้องการบุคลากรในด้านนี้เพิ่มขึ้น เช่น ผู้จัดการคลังสินค้า และผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการซัพพลายเชน5.งานด้านการเงินและการวิเคราะห์ข้อมูล (Finance & Data Analysis)นักวิเคราะห์ทางการเงิน, นักบัญชี, และนักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) ยังคงเป็นตำแหน่งที่มีผู้สนใจอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทุกองค์กรต้องการข้อมูลเชิงลึกเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจรายได้ค่าตอบแทน ตอนนี้เฉลี่ยเงินเดือนของไทยอยู่ที่เรตไหนเงินเดือนเฉลี่ยในประเทศไทยในปัจจุบันจะแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ อุตสาหกรรม และตำแหน่งงานค่ะ โดยหากพูดถึงภาพรวมเงินเดือนในตลาดงานทั่วไป เราสามารถแบ่งคร่าว ๆ ตามกลุ่มได้ดังนี้1.นักศึกษาจบใหม่ (Fresh Graduates)เงินเดือนเริ่มต้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20,000-25,000 บาทต่อเดือน โดยสายงานที่ต้องการทักษะเฉพาะ เช่นIT หรือวิศวกรรม อาจได้รับค่าตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ย2.สายงานระดับกลาง (Mid-level)สำหรับคนที่มีประสบการณ์ 3-5ปี เงินเดือนเฉลี่ยจะอยู่ในช่วง30,000-50,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง เช่น การตลาด,การขาย,หรือสายงานวิเคราะห์ข้อมูล3.สายงานระดับผู้บริหาร (Management)ตำแหน่งระดับผู้จัดการขึ้นไปจะมีเงินเดือนเฉลี่ยประมาณ 70,000-150,000บาทต่อเดือน หรือสูงกว่านั้นในอุตสาหกรรมที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ เช่น การเงิน,เทคโนโลยี,และการแพทย์นอกจากนี้ ในอุตสาหกรรมที่มีความต้องการแรงงานสูง เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT),การตลาดดิจิทัล,หรือ งานด้านวิศวกรรม เงินเดือนเฉลี่ยอาจสูงกว่ากลุ่มอื่นอย่างชัดเจน ตัวเลขดังกล่าวเป็นค่าเฉลี่ยเบื้องต้น และค่าตอบแทนจริงอาจแตกต่างกันไปตามทักษะ ประสบการณ์ และความซับซ้อนของงานสายอาชีพไหนที่ได้รับค่าตอบแทนสูง หรือมีการปรับเงินเดือนในแต่ละปีค่อนข้างสูงสายอาชีพที่ได้รับค่าตอบแทนสูงและมีการปรับเงินเดือนในแต่ละปีอย่างต่อเนื่องมักจะเกี่ยวข้องกับทักษะที่เป็นที่ต้องการในตลาดแรงงานและมีความเฉพาะทางสูง1.เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)และวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) ตำแหน่งอย่างData Scientist, AI Engineer, และCybersecurity Specialist มีเงินเดือนเริ่มต้นสูง และมักได้รับการปรับขึ้นทุกปี เนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีและความต้องการทักษะด้านนี้2.การเงินและการลงทุน (Finance & Investment)นักวิเคราะห์การเงิน (Financial Analyst), ที่ปรึกษาการลงทุน (Investment Consultant), หรือผู้จัดการกองทุน (Fund Manager) เป็นกลุ่มที่มีรายได้สูง รวมถึงโบนัสที่ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานในแต่ละปี3.การแพทย์และสาธารณสุข (Healthcare)แพทย์เฉพาะทาง, ทันตแพทย์, และนักวิจัยทางการแพทย์ มักมีค่าตอบแทนสูง รวมถึงการปรับเพิ่มตามประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ4.การตลาดดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซ (Digital Marketing & E-commerce)ตำแหน่งอย่างDigital Marketing Specialist หรือE-commerce Manager มีแนวโน้มการเติบโตของเงินเดือน เนื่องจากธุรกิจออนไลน์ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง5.วิศวกรรม (Engineering)วิศวกรในสายAutomation และอื่นๆ จะได้รับค่าตอบแทนค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเทรนด์การจ้างงานหรือหางานเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหนในยุคนี้เทรนด์การจ้างงานและการหางานในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนตามพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่และการปรับตัวขององค์กร เห็นได้ชัดเจน5 เรื่อง คือ1.คนรุ่นใหม่กับการทำงาน คนรุ่นใหม่ (Gen Z)เริ่มให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้น ทำให้ งานฟรีแลนซ์ หรือการทำงานแบบRemote Working ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากสามารถจัดการเวลาได้เองและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ต้องการสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว (Work-Life Balance) อย่างไรก็ตาม คนรุ่นใหม่บางส่วนยังมองหางานประจำที่มั่นคง หากองค์กรสามารถมอบโอกาสการพัฒนาทักษะและสร้างเส้นทางอาชีพที่ชัดเจนได้2.การจ้างงานในองค์กรองค์กรเริ่มมีแนวโน้มที่จะจ้างงานแบบสัญญาจ้าง (Contract) มากขึ้น โดยเฉพาะในโครงการที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทางหรือช่วงเวลาสั้น ๆ เช่น งานด้านเทคโนโลยี หรือการตลาดดิจิทัล ขณะเดียวกัน งานประจำยังคงมีบทบาทสำคัญในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างหลักของบริษัท เช่น การเงิน, การบริหารทรัพยากรบุคคล, การตลาดหรือการขาย3.เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการหางานและจ้างงานเพิ่มมากขึ้น ช่วยให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงโอกาสได้ง่ายขึ้นและสามารถเลือกงานที่เหมาะกับทักษะและความสนใจของตนเอง4.ความต้องการด้านทักษะองค์กรในปัจจุบันมองหาพนักงานที่มีSoft Skills เช่น การแก้ปัญหา การสื่อสาร ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ควบคู่กับHard Skills ในสายงานเฉพาะทาง5.ทัศนคติและวัฒนธรรมองค์กรคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมองค์กรที่โปร่งใส มีเป้าหมายที่ชัดเจน และสนับสนุนความหลากหลาย ทำให้หลายบริษัทต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองความคาดหวังเหล่านี้โดยรวมแล้ว เทรนด์การจ้างงานในปัจจุบันสะท้อนถึงความยืดหยุ่นและความหลากหลายทั้งในแง่รูปแบบงานและทัศนคติของทั้งนายจ้างและผู้หางานมีเกณฑ์หรือสวัสดิการอะไร ที่ลูกจ้างส่วนใหญ่ต้องการหรือระบุมาในใบสมัครจากข้อมูลและแนวโน้มในปัจจุบัน ลูกจ้างส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับ สวัสดิการและเงื่อนไขการทำงาน ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการเงินและไลฟ์สไตล์มากขึ้น โดยเกณฑ์และสวัสดิการที่ได้รับความนิยมและถูกระบุบ่อยในใบสมัครหรือการสัมภาษณ์ ได้แก่ :1.โบนัสและค่าตอบแทนตามผลการทำงาน (Performance Bonus)การมีโบนัสที่ชัดเจนและโปร่งใสตามผลการดำเนินงานของบริษัทและพนักงาน เป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดผู้สมัครงาน2.Work From Home (WFH)และงานรีโมต (Remote Working)หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 พนักงานหลายคนยังคงมองหางานที่มีความยืดหยุ่นในการทำงานจากที่บ้าน หรือสามารถทำงานแบบรีโมตได้ โดยเฉพาะในสายงานด้านเทคโนโลยีและการตลาด3.ชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น (Flexible Working Hours)การกำหนดเวลาทำงานที่ไม่ตายตัวช่วยให้พนักงานบริหารเวลาได้ดีขึ้น และสร้างความสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว (Work-Life Balance)4.สวัสดิการสุขภาพ (Health Benefits)การมีประกันสุขภาพ, การตรวจสุขภาพประจำปี, หรือสวัสดิการดูแลสุขภาพจิต กำลังเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้น5.วันหยุดเพิ่มเติม (Additional Leave)ลูกจ้างหลายคนมองหาวันหยุดเพิ่มเติม เช่น วันลาพักร้อนที่มากกว่ากฎหมายกำหนด หรือวันลาในโอกาสพิเศษ เช่น วันลาเพื่อทำกิจกรรมอาสา6.การสนับสนุนด้านพัฒนาทักษะ (Learning & Development)สวัสดิการที่สนับสนุนการเรียนรู้ เช่น คอร์สออนไลน์, การอบรมทักษะ, หรือการสนับสนุนด้านการศึกษาต่อ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ดึงดูดพนักงานที่ต้องการพัฒนาตนเอง7.การสนับสนุนด้านอุปกรณ์ทำงาน (Work Equipment Support)การจัดเตรียมอุปกรณ์ทำงาน หรือการสนับสนุนค่าอินเทอร์เน็ตสำหรับการทำงานที่บ้าน8.วัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมความหลากหลายและความเท่าเทียม (Diversity & Inclusion)คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการทำงานในองค์กรที่ให้ความเคารพในความหลากหลายทางเพศ, วัฒนธรรม, และความเชื่อเกณฑ์และสวัสดิการเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของความคาดหวังจากคนทำงาน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่มองหาการทำงานที่ไม่ใช่แค่เรื่องเงินเดือน แต่ยังรวมถึงคุณภาพชีวิตและการพัฒนาตนเองที่มา : ฉายทิศทางตลาดงานปี 2025 งานไหนมาแรง เตรียมตัวอย่างไรไม่ให้เป็นคนตกงาน
อ่านเพิ่มเติมอมตะจับมือซูมิโตโม รับเบอร์ ชวนพนักงานร่วมเป็นฮีโร่ กับโครงการ “100 ล้านซีซี โลหิตชาวอมตะเพื่อสภากาชาดไทย"อมตะซิตี้ ระยอง ร่วมกับบริษัท ซูมิโตโม รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด และสภากาชาดไทย ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 จ.ชลบุรี จัดกิจกรรมบริจาคเลือดภายใต้โครงการ “100 ล้านซีซี โลหิตชาวอมตะเพื่อสภากาชาดไทย” โดยมีพนักงานชาวซูมิโตโม รับเบอร์ ร่วมบริจาคโลหิต 148 คน (จากผู้มาลงทะเบียน 170 คน) รวมปริมาณโลหิต 59,200 ซีซี เพื่อนำโลหิตไปช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป
อ่านเพิ่มเติม1. เลือกเฉพาะประสบการณ์ที่มีค่าที่สุด ในสายงานนั้นๆในขั้นตอนแรกสุดเลยก็คือ เมื่อคุณคิดว่าคุณมีประสบการณ์ทำงานมากพอที่จะเขียนลงไปในเรซูเม่ของตัวเองแล้วล่ะก็ ก่อนอื่นคุณต้องมั่นใจว่าสิ่งที่คุณจะเขียนลงไปมันมีค่าในสายตาของผู้อ่านเรซูเม่ ซึ่งก็คือพนักงานสรรหาบุคลากร และผู้ที่จะสัมภาษณ์งานคุณ ซึ่งส่วนมากแล้วก็จะเป็น Supervisor หรือผู้จัดการ หรือหัวหน้าในสายงานของคุณนั่นเอง อย่าเขียนประสบการณ์ดาดๆที่ใครก็ได้สามารถทำมันได้ แต่ให้เลือกเขียนเฉพาะประสบการณ์ที่มีค่ามากๆก็พอ2. เน้นประสบการณ์ที่ได้รับการยกย่อง หรือรางวัล (Achievement)ถ้าหากคุณได้รับรางวัลอะไรในสายงาน ไม่ว่าจะเป็นผลงานส่วนตัวหรือผลงานของทีม ไม่ว่ารางวัลนั้นจะใหญ่หรือเล็กแค่ไหน นี่แหล่ะคือสิ่งที่มีค่ามากๆที่ควรจะเขียนลงไปในเรซูเม่ แต่ถ้าคุณมีรางวัลมากล่ะก็ เลือกเขียนอันที่ใหญ่ที่สุดก่อน แล้วเรียงลำดับลงมาตามความสำคัญนะครับ3. ประสบการณ์ที่เกี่ยวกับเคส หรือลูกค้าที่โด่งดังในสายงานของคุณในทุกๆสายงานย่อมจะรู้จักกันเองข้ามบริษัท ไม่มากก็น้อย ดั่งคำพูดที่ว่า "วงการมันแคบกว่าที่คิด" ซึ่งสิ่งนี้ใช้ได้กับทุกวงการเลยล่ะ ถ้าคุณมีประสบการณ์เคยทำงานในเคสที่ใหญ่ หรือทำงานร่วมกับลูกค้าที่ใครๆก็บอกว่าเป็นตัวแม่ของวงการแล้ว หรือมีแต่รายชื่อลูกค้าดังๆแล้วล่ะก็ คุณเองก็จะเนื้อหอมเอามากๆเลย ใครๆก็สนใจอยากจะสัมภาษณ์คุณ4. ประสบการณ์ที่ผ่านมาไม่มีอะไรเด่น? ลองเขียนสิ่งที่ทำผ่านมาตรฐานดูสิครับในบางสายงาน อย่างเช่น งานวิศวกร ที่คุณไม่มีโอกาสได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ แต่คุณเป็นฟันเฟืองของบริษัทที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนองค์กรอยู่เบื้องหลังแล้วล่ะก็ คุณสามารถเขียนสิ่งที่คุณทำแล้วผ่านมาตรฐานต่างๆดูสิครับ สิ่งนี้เองก็มีความสำคัญไม่น้อยหน้าสายงานอื่นๆเลยครับ มาตรฐานนี้สามารถเป็นได้ตั้งแต่มาตรฐานระดับโลกอย่าง ISO ลงมาจนถึงมาตรฐานของโรงงานที่ตัวเองทำอยู่ได้เลย ขอเพียงเขียนชื่อมาตรฐานให้ถูก อย่าสะกดผิด หรืออย่าเขียนลอยๆว่า "มาตรฐาน" เฉยๆโดยที่ไม่ได้ใส่ชื่อให้มันก็พอ5. เขียนประสบการณ์ทำงานเรียงเป็นลำดับ เอาล่าสุดขึ้นก่อนประสบการณ์ทำงานในเรซูเม่เป็นแบบ เรียงตามเวลา โดยเอาอันล่าสุดขึ้นก่อน ส่วนของเก่าก็อยู่ล่างๆ เรียงกับอย่างเป็นระบบระเบียบ ซึ่งสิ่งนี้มีประโยชน์แฝงอยู่หลายข้อด้วยกัน นอกจากเพื่อที่จะให้อ่านง่ายแล้ว ผู้ที่อ่านเรซูเม่ของคุณยังมองว่าคุณมีความสามารถในการจัดระเบียบได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย6. เน้นคีย์เวิร์ด (คำค้น) ให้ชัดเจนเมื่อคุณเขียนเรซูเม่ของตัวเองและนำไปใช้ต่อ จะส่งให้ HR โดยตรง หรืออัพโหลดขึ้นเว็บไซท์สมัครงานต่างๆ คุณจะต้องคำนึงด้วยว่าพนักงานฝ่ายสรรหาบุคลากร จะค้นหาเจอเรซูเม่ของคุณได้อย่างไร ในกองเรซูเม่ขนาดใหญ่ที่พวกเขาได้รับในแต่ละวัน ซึ่งในยุคนี้ไม่มีใครเขาหยิบเรซูเม่มากองละหมื่นใบ แล้วมาอ่านกัน บริษัทส่วนใหญ่มีระบบดิจิทัลกันแล้ว ซึ่งสามารถค้นหาคำต่างๆที่ต้องการได้เพียงเสี้ยววินาที ดังนั้นสิ่งที่คุณจะต้องทำก็คือทำให้เรซูเม่ของตัวเอง สามารถค้นหาได้ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือแปลงเป็น PDF เท่านั้น ถ้าหากคุณส่งเป็นกระดาษ หรือทำเป็นรูปไปล่ะก็มันจะค้นหาด้วยคีย์เวิร์คไม่ได้ คุณก็จะเสียเปรียบตรงนี้ไปอย่างมหาศาลเลยล่ะถ้าต้องกรอกข้อมูลใหม่ ก็กรอกให้ครบ อย่าให้ขาด คนส่วนมากมักจะคิดว่าก็ส่งเรซูเม่ให้แล้ว ทำไมไม่อ่าน ทำไมยังต้องกรอกอีก ที่กรอกทั้งหมดนี้สามารถใช้ค้นหาได้อย่างรวดเร็วเลยล่ะครับ ถ้าคุณปล่อยว่างๆแล้วล่ะก็ เสียดายนะครับสะกดให้ถูก ใช้คำให้ถูก บางคำมีชื่อภาษาอังกฤษ ก็ใส่ไปเลยทั้งอังกฤษ ทั้งไทย เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะถูกค้นหาเจอเช่นถ้าคุณเป็นนักบัญชี และคุณเคยทำงานด้านตรวจบัญชีมาก่อน ก็ให้ว่า Audit หรือ Auditor ในภาษาอังกฤษ แล้วถ้าใส่คำภาษาไทยว่า "นักตรวจสอบบัญชี" ด้วยแล้ว ก็จะเพิ่มโอกาสในการถูกค้นหามากขึ้นไปอีกครับ7. เด็กจบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ ลองเขียนเรื่องการฝึกงานดูสิถ้าคุณเป็นเด็กจบใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ทำงานแล้วล่ะก็ ให้เขียนประสบการณ์ที่ได้รับตอนฝึกงานลงไปแทน หรือถ้าตอนเรียนคุณได้ทำงาน เฉพาะที่เกี่ยวข้องสายงานนะครับ ก็สามารถเขียนลงไปได้ เช่นถ้าคุณเรียนจบด้านสถาปนิกมา และต้องการสมัครงานสถาปนิก โดยที่ตอนเรียนอยู่เคยทำงานพาร์ทไทม์กับบริษัทออกแบบโครงสร้างอาคารแล้วล่ะก็ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างเป็นพนักงานเดินเอกสาร ก็ใส่มันลงไปเถอะครับที่สำคัญก็คือ อย่าใส่สิ่งที่ไม่จำเป็นกับตำแหน่งงานที่คุณสมัคร เพื่อแค่ให้เรซูเม่ดูเต็มๆ หรือมีอะไรเด็ดขาดนะ เพราะจะทำให้พนักงานฝ่ายสรรหาบุคลากรมองว่า คุณยังไม่ได้สนใจในสายงานนั้นๆขนาดนั้น แล้วก็เลือกที่จะให้โอกาสกับเด็กจบใหม่อีกคนที่เขียนประสบการณ์ตรงกับตำแหน่งงานมากกว่า8. ข้อมูลที่ดี มีการจัดระเบียบที่ดี มีค่ามากกว่าเรซูเม่สวยๆหลายๆคนก็คงจะเคย โหลดธีมเรซูเม่สวยๆ มาใช้บ้าง ใช่ไหมครับ เป็นเรื่องจริงที่ของสวยๆงามๆใครก็ชอบ แต่สวยแล้ว จะต้องมีข้อมูลที่ดี และการจัดระเบียบข้อมูลให้อ่านง่ายสบายตาที่มา : https://bestjob.in.th
อ่านเพิ่มเติมกิจกรรม Eco Green Networkอมตะ ร่วมกับสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี จัดกิจกรรม Eco Green Network ระหว่างวันที่ 20-21 มีนาคม 2568 เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างภาคอุตสาหกรรมและชุมชน โดยมีผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประธานกลุ่มวิสาหกิจจากพื้นที่โดยรอบนิคมฯ จำนวน 70 คน เข้าร่วมศึกษาดูงานด้านการบริหารจัดการกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และแนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เน้นการเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจและการแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างรายได้สถานที่ศึกษาดูงาน 2 แห่ง ได้แก่📍 กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแตนบาติก จ.ระยอง✅ เรียนรู้เทคนิคการย้อมผ้าด้วย น้ำทะเล แทนการใช้สีเคมี ส่งเสริมการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม📍 ศูนย์ส่งเสริมอาชีพการเกษตร จ.จันทบุรี✅ ศึกษาการเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้ให้กับชุมชน🌱 กิจกรรมครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมและชุมชน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่าง ยั่งยืน และขอบคุณพนักงานกลุ่มอมตะทุกท่านที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมดีๆ ครั้งนี้!
อ่านเพิ่มเติมทีมงานCSRอมตะซิตี้ ระยอง จัดกิจกรรม “อมตะห่วงใย ใส่ใจผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง/ติดบ้าน” ลงพื้นที่ชุมชนร่วมกับ รพ.สต.มาบยางพร เพื่อมอบถุงอมตะปันน้ำใจ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการดูแล สร้างขวัญและกำลังใจ เพื่อให้ผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียง ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว และมีกำลังใจสู้ชีวิตต่อไป นอกจากนี้ โครงการฯ นี้ ยังเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ของผู้พิการหรือผู้ป่วยติดเตียงอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม1.การชื่นชม : การรับรู้ หรือชื่นชมความสำเร็จของกันและกันในที่ทำงานและการสร้างความมุ่งมั่นส่วนตัว เป็นวิธีการที่ทำให้พนักงานสามารถต่อสู้กับความเหนื่อยล้า หรือความคับข้องภายในในการทำงานได้ เพียงแค่เราปรับปรุงวัฒนธรรมการทำงานเพื่อประโยชน์ขององค์กร2.ส่งเสริมความแตกต่าง : ท่ามกลางความแตกต่างมากมายในยุคปัจจุบันที่มีมากกว่าแต่ก่อน เช่น ชนชาติ อายุ เพศ รสนิยามต่างๆ หรือศาสนา แล้วขอความเห็นจากพนักงานที่มีความคิดแตกต่างกัน จะช่วยทำให้เกิดมุมมองที่หลากหลายในการตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น3.การให้ฟีดแบ็ก : หากองค์กรไหนให้ความสำคัญกับการให้ฟีดแบ็กเพื่อการพัฒนาอย่างแท้จริง จะช่วยให้ทำให้องค์กรยิ่งเติบโตมากขึ้น4.ผิดพลาดได้ ไม่เป็นไร : หลายๆ องค์กร พนักงานมักจะรู้สึกอายในการทำผิดพลาด หรือพยายามที่จะปกปิดความผิดพลาดเอาไว้ แต่หากองค์กรไหนสามารถที่จะทำให้พนักงานพูดถึงความผิดพลาดและเรียนรู้ร่วมกันได้ ก็จะทำให้องค์กรเดินหน้าต่อไป5.พัฒนาทักษะให้แก่พนักงาน : การพัฒนาทักษะใหม่ให้แก่พนักงานเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพื่อให้พนักงานได้ทั้งความรู้ และทักษะที่ตอบโจทย์กับการทำงานยุคนี้6.การสื่อสารเชิงบวกต่อกัน : องค์กรในยุคใหม่ จะเน้นที่ความไว้ใจและการให้เกียรติซึ่งกันและกัน แต่อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งหรือการไม่เห็นด้วย ก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะเราก็คือมนุษย์คนหนึ่ง ดังนั้น การพยายามเข้าใจความต้องการของแต่ละฝ่าย และสื่อสารความต้องการออกไปด้วยท่าทีเชิงบวก หรือคำพูดเชิงบวก จะทำให้องค์กรมีความเข้าใจกันมากขึ้น7.การทำงานแบบยืดหยุ่น : เด็กรุ่นใหม่ที่เข้าทำงานมักมองหาความยืดหยุ่นในการทำงานเพราะความยืดหยุ่นจะช่วยสร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้แก่บริษัทและพนักงาน เช่น มุ่งเน้นผลลัพธ์มากกว่าการการกำหนดชั่วโมงการทำงานอ้างอิง The 25+ elements you should know when talking about the Future of Work\ที่มา www.starfishlabz.com
อ่านเพิ่มเติมในปีที่ผ่านมา มีหลากหลาย “เทรนด์การทำงาน” และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานของพนักงานทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มบทบาทของ AI ในระบบการทำงานขององค์กร หรือแนวโน้มด้านการบริหารและดูแลพนักงานที่ได้รับความสำคัญมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ได้กำหนดแนวทางการทำงานใหม่ ๆ ให้กับพนักงานและองค์กรในปี 2024 เราได้เห็นแนวโน้มสำคัญ เช่น การพัฒนาความเป็นผู้นำ การเสริมสร้างความไว้วางใจในองค์กร และการดูแลสุขภาพจิตพนักงาน ซึ่งแนวโน้มเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อไปถึงปี 2025 พร้อมกับเทรนด์การทำงานใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานอีกมากมาย มาดูกันว่าเทรนด์ที่น่าจับตามองในปี 2025 มีอะไรบ้าง1. ปัญหาพนักงานมีส่วนร่วมน้อยลง ส่งผลต่อการขาดแคลนแรงงานทั่วโลกปัญหาความไม่อินในที่ทำงานหรือการขาดแรงจูงใจในการทำงาน ทำให้เกิดกระแส “Great Resignation” หรือการลาออกครั้งใหญ่ ซึ่งยังคงส่งผลกระทบต่อเนื่องจนถึงปี 2025 พนักงานมีแนวโน้มเลือกองค์กรที่ให้ความมั่นคงและโอกาสเติบโตมากขึ้น จากการสำรวจของ Gallup พบว่า มีเพียง 18% ของพนักงานที่ “พึงพอใจอย่างมาก” กับงานของตนเอง ซึ่งหมายความว่าองค์กรจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนพนักงานให้มีความสุขและมีส่วนร่วมมากขึ้น2. การพัฒนาทักษะเพื่อรองรับ AI กลายเป็นเรื่องเร่งด่วนช่องว่างของทักษะดิจิทัลและ AI กำลังกลายเป็นปัญหาสำคัญสำหรับองค์กรทั่วโลก หลายบริษัทเริ่มเพิ่มการอบรมและพัฒนาทักษะ AI ให้กับพนักงาน รวมถึงการจ้างงานบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี3. AI กำหนดเส้นทางอาชีพและบทบาทของหัวหน้างานมากขึ้นองค์กรเริ่มใช้ AI ในการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงสร้างองค์กร การบริหารจัดการงาน และการพัฒนาอาชีพของพนักงาน การใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้บางบริษัทลดจำนวนพนักงานในระดับบริหารลง และปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความแบนราบมากขึ้น สิ่งนี้อาจทำให้เส้นทางอาชีพของพนักงานเปลี่ยนไป โดยต้องพัฒนาทักษะใหม่เพื่อรองรับการทำงานร่วมกับ AI4. ความผันผวนของปัจจัยภายนอก คัดกรองบริษัทที่แข็งแกร่งปัจจัยภายนอก เช่น ภาวะเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนทางการเมือง และวิกฤตสภาพอากาศ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อองค์กร บริษัทที่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและมีแผนกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นจะสามารถอยู่รอดและเติบโตได้ ในขณะที่องค์กรที่ไม่สามารถปรับตัวได้อาจเผชิญกับความท้าทายในการแข่งขัน5. เสถียรภาพทางการเงินมีความสำคัญมากขึ้นในยุคเศรษฐกิจไม่แน่นอนในปี 2025 องค์กรจะให้ความสำคัญกับเสถียรภาพทางการเงินมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อแนวทางการบริหารทรัพยากร เช่น การปรับโครงสร้างงบประมาณ การลดต้นทุน และการให้สวัสดิการพนักงานในรูปแบบที่เหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจมากขึ้น6. การให้ความสำคัญกับพนักงานที่สร้างผลงานเด่นชัดองค์กรจะเน้นไปที่การพัฒนาประสิทธิภาพของพนักงานมากขึ้น โดยพนักงานที่สามารถสร้างผลลัพธ์หรือมี Impact ต่อองค์กรจะได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน องค์กรอาจเข้มงวดในการคัดเลือกพนักงานมากขึ้น และให้ความสำคัญกับการจ้างงานที่คุ้มค่า7. องค์กรมุ่งสร้างวัฒนธรรมที่ส่งเสริมความยั่งยืนแนวโน้มด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนกลายเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรหลายแห่ง การดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือขององค์กร และช่วยดึงดูดพนักงานรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในการทำงานที่มา : www.greatplacetowork.comแปลโดย : www.careervisathailand.com
อ่านเพิ่มเติมอมตะซิตี้ ระยอง มอบก้อนเห็ดนางฟ้าให้กับโรงเรียนบ้านภูไทร ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งมีความสนใจด้านการปลูกเห็ดนางฟ้า และใช้ในการสอนวิชาเกษตร โดยทางโรงเรียนจะเห็ดที่ออกนำโครงการอาหารกลางวัน และจำหน่ายแก่ผู้ปกครอง สร้างรายได้แก่โรงเรียนอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม