เว็บไซต์ Amata Jobs Online จัดทำขึ้นโดย บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ อมตะ (AMATA) ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย ตั้งอยู่จังหวัดชลบุรี และ ระยอง มีโรงงานประกอบกิจการกว่า 1,100 แห่ง สามารถสร้างอาชีพให้กับคนในประเทศมากกว่า 250,000 อัตรา ถือว่าเป็นตลาดงานใหญ่อันดับต้นๆของประเทศ ซึ่งมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
สร้างเรซูเม่สมัครงานฟรี ให้คุณยืนหนึ่งด้วยการนำเสนอตัวตนที่โดดเด่น เพิ่มโอกาสให้คุณได้งาน สร้างเรซูเม่ของตัวเองขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดาย ทำเรซูเม่ที่สวยงาม และใช้งานได้จริง หมดปัญหากับการสร้างเรซูเม่ที่สวย แต่ส่งไปสมัครงานแล้วแป๊กทุกที พร้อมถึงระบบช่วยกรอกเรซูเม่ ที่จะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจในทุกส่วนของข้อมูลเรซูเม่ และสามารถกรอก ข้อมูลได้ละเอียดที่สุด
สร้างเรซูเม่อมตะซิตี้ ชลบุรี
อมตะซิตี้ ระยอง ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลพนานิคม จัด โครงการอบรมอาชีพเพิ่มรายได้ให้ชุมชน ขึ้น โดยมีการฝึกอบรมการทำแซนวิช กล้วยฉาบ ขนมดอกจอกซึ่งเป็นอาชีพที่ทำได้อย่างง่าย สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีตัวแทนกลุ่มชุมชน ทั้งผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ ในพื้นที่ตำบลพนานิคม มากกว่า 50 คน เข้าร่วมอบรม เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลพนานิคม อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง
อ่านเพิ่มเติมนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง จัดโครงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม “ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี” เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา โดยปลูกต้นไม้พื้นถิ่นหายาก จำนวน 1,000 ต้น คือ กระพี้จั่น และจันทน์ดง โดยมีผู้ประกอบการและตัวแทนหน่วยงานท้องถิ่น มากกว่า 47 แห่ง พนักงานจิตอาสามากกว่า 420 คน ร่วมด้วยช่วยกันปลูก ซึ่งการปลูกต้นไม้ คือสิ่งที่อมตะให้ความสำคัญและจัดมาอย่างต่อเนื่อง โดยอมตะซิตี้ ระยอง ปลูกต้นไม้มาแล้ว กว่า 115,000 ต้น ทำให้ปัจจุบันอมตะซิตี้ ระยอง มีพื้นที่สีเขียวภายในนิคมฯ มากกว่า 14% ของพื้นที่ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน และคืนความสมบูรณ์ให้ธรรมชาติต่อไปนอกจากนี้ อมตะยังได้สนับสนุนสินค้าชุมชน คือ แซนวิช และยาดมสมุนไพร จากวิสาหกิจชุมชนบ้านห้วยปราบ ต.บ่อวิน มาเป็นของว่างและของที่ระลึกสำหรับผู้ที่มาร่วมกิจกรรมด้วย ซึ่งทั้งแซนวิชและยาดมสมุนไพร อมตะได้จัดอบรมอาชีพให้กับกลุ่มชุมชนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ถือเป็นต่อยอดอาชีพและสร้างรายได้ให้กับทางกลุ่มชุมชนอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติมอมตะซิตี้ ระยอง ร่วมกับ เหล่ากาชาดจังหวัดระยอง และ กลุ่มบริษัทสมบูรณ์ ได้จัดกิจกรรม “100 ล้านซีซี โลหิตชาวอมตะเพื่อสภากาชาดไทย ครั้งที่ 36” ขึ้น เพื่อนำโลหิตไปช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป โดยมีฮีโร่จาก 22 บริษัท ร่วมบริจาคโลหิตได้ก 131 คน (จากผู้มาบริจาค 173 คน) รวมปริมาณโลหิต 58,650 ซีซี ซึ่ง ปัจจุบันโครงการมียอดบริจาคโลหิตทั้งสิ้น 26.80 ล้านซีซี (ยอดบริจาครวมทั้งอมตะซิตี้ ชลบุรีและอมตะซิตี้ ระยอง)ทั้งนี้ อมตะขอขอบคุณเหล่าฮีโร่ทุกท่านที่ได้มาร่วมโครงการดังกล่าว และอมตะยังมีแคมเปญ #Amata Blood Hero ที่เชิญให้พนักงานมาร่วมบริจาคอย่างต่อเนื่องโดยการสะสมบัตรบริจาคโลหิตของอมตะ ซึ่งจะมีของที่ระลึกพิเศษให้กับผู้ที่บริจาคครบ 4, 8 และ 12 ครั้ง ซึ่งเหล่าฮีโร่สามารถร่วมบริจาคโลหิตครั้งต่อไป ได้ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 นี้
อ่านเพิ่มเติม💛 บ่ายวันนี้ทีม CSR ได้นำน้ำดื่ม และอาหารแห้ง รวมถึงสิ่งของจำเป็นสำหรับใช้ในการปรุงอาหาร ส่งมอบให้แก่ บ้านเด็กกำพร้าลอเรนโซ่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ซึ่งประสบภาวะขาดแคลน และ ขอรับความช่วยเหลือมายังผู้ประกอบการภายในนิคมอมตะฯซึ่งภายในระยะเวลา 3 วันหลังจากการขอการช่วยเหลือมีผู้ประกอบการภายในนิคมนำน้ำดื่มไปบริจาคให้เป็นจำนวนมาก เพียงพอต่อการ ใช้บริโภค แต่ยังคงมีความต้องการในส่วนของ อาหารแห้ง เครื่องปรุงอาหาร อาทิ ข้าวสาร ซอส น้ำมัน น้ำปลา น้ำตาล นมสำหรับเด็ก รวมถึงของใช้ประจำวัน อาทิ ผงซักฟอก สบู่ ยาสีฟัน น้ำยาล้าง เป็นต้น(#) ท่านใดสนใจร่วมบริจาค สมทบเพิ่มเติมสามารถแจ้งได้ที่ฝ่าย CSR จะ รวบรวมและนำส่งมอบให้แก่บ้านเด็กกำพร้าลอเรนโซ่อีกครั้งภาย ในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้
อ่านเพิ่มเติมความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีส่งผลต่อความผันผวนที่รุนแรงในภาคธุรกิจ เช่น การแข่งขันโดยปราศจากพรมแดนและข้ามประเภทอุตสาหกรรมที่นำมาซึ่งโอกาส ความเสี่ยงและการแย่งชิงตลาดที่ดุเดือดมากขึ้นใน Digital Landscape นอกจากนี้ยังมีเรื่องพฤติกรรมการใช้จ่ายที่แตกต่างกันของคนรุ่น Generation Z และ Millenial ที่คุ้นเคยกับโลกยุคดิจิตัลที่เพิ่มจำนวนในตลาดมากขึ้นและกระแสการทำงานแบบ GIG WORKER ที่รับค่าตอบแทนตามจำนวนที่ทำแลกกับความยืดหยุ่น รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจ แรงกดดันด้าน ESG และความเสี่ยงจากเทคโนโลยี เช่น เรื่องปัญญาประดิษฐ์และภัยคุกคามไซเบอร์ บีบให้องค์กรต้องเร่งยกระดับขีดความสามารถตนเอง ด้วยการพัฒนาและใช้นวัตกรรมยกระดับเทคโนโลยีที่มีอยู่เดิม เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุค Digital First World ที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นกลไกสำคัญที่ใช้ขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า 7 ขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี แบ่งออกเป็น 4 แกนหลักเพื่อจะช่วยให้องค์กรสามารถรองรับความเปลี่ยนแปลง พร้อมช่วงชิงโอกาสทางธุรกิจ รวมทั้งวางรากฐานการเติบโตตามหลักความยั่งยืน ESG ที่จะมอบข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของธุรกิจในระยะยาว ประกอบด้วยแกนที่ 1_Augmented Intelligence (การรวมพลังของ AI และมนุษย์) หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจแห่งอนาคต ผ่านการเข้าถึงเทคโนโลยี Gen AI ในวงกว้างที่เรียกว่า Democratization of Generative AI (Ge์n AI) เพื่อสร้างโอกาสให้ธุรกิจ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และพัฒนาความเข้าใจในตัวลูกค้าด้วย AI เพื่อสร้างคอนเทนต์ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้นแกนที่ 2_Digital Ecosystem (การสร้างระบบนิเวศธุรกิจที่เชื่อมต่อหลายระบบและบริการเข้าด้วยกัน เพื่อความสะดวกของลูกค้า) เช่น Super App ที่รองรับการเติบโตของตลาดในอนาคต ต้องให้ความสำคัญกับขีดความสามารถของ Multiexperience (MX) การสร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นในทุกจุดสัมผัสบนช่องทางดิจิตัลและการใช้งานข้ามแพลตฟอร์ม เช่น Website, Super App, Augment Reality, Virtual Reality ให้แก่ลูกค้าอย่างครอบคลุมและยังมี Event-Driven Nano Architecture (EDNA) การออกแบบสถาปัตยกรรมระบบสมัยใหม่ที่ประกอบด้วยนาโนเซอร์วิส ที่แยกออกจากกันเป็นหน่วยเล็ก ๆ เพื่อความยืดหยุ่นและความสามารถในการพัฒนาแต่ละส่วนงาน ทำให้การปรับเปลี่ยนของทรัพยากรยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่กระทบกับบริการอื่น ๆ หากบางส่วนมีปัญหาและลดความซ้บซ้อนในขั้นตอนการทำงานและต้นทุนแกนที่ 3_Digital Immunity and Trust (การสร้างเกราะป้องกันองค์กร พร้อมรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์) โดยขีดความสามารถที่จะเข้ามาตอบโจทย์ความมั่นคงและปลอดภัยทางไซเบอร์ ได้แก่ Generative Cybersecurity AI ที่จะช่วยลดความเสี่ยงการละเมิดข้อมูล ความผิดปกติบนระบบต่าง ๆ และชี้ช่องโหว่การโจมตีได้ทันท่วงทีนอกจากนี้ในแกนที่ 3 ยังมี AI-Enhance Security Operations มาช่วยเพิ่มการวิเคราะห์เกี่ยวกับความปลอดภัยและแนวทางการตอบสนองต่อภัยคุกคามรูปแบบต่าง ๆ ด้วยการรวบรวมข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่งเพื่อเสนอวิธีรับมือกับเหตุการณ์นั้น ๆแกนที่ 4_Sustainability Technologies (การผสมผสานแนวคิดด้านเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน) เช่น AI for SustSustainabilityที่นำมาใช้เฝ้าสังเกตและคาดการณ์การปล่อยคาร์บอนเพื่อนำไปปรับปรุงประสิทธิภาพขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีอันสุดท้ายในแกนที่ 4 คือ ESG Management and Reporting ที่จะช่วยองค์กรรับมือกับแรงกดดันในประเด็นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การจัดการภายในองค์กร การปฎิบัติตามกฎระเบียนด้าน ESG โดยอาศัยซอฟท์แวร์ที่สามารถรวบรวมข้อมูลและจัดทำรายงานได้ตามกฎระเบียบมาตรฐานสากลการเปลี่ยนผ่านไปสู่ Digital-First Company องค์กรจะต้องเพิ่มแรงจูงใจให้กับพนักงาน ทำให้พนักงานรับรู้ประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีให้ได้ภายใต้การสนับสนุนที่เพียงพอCREDIT: THE STANDARD WEALTH
อ่านเพิ่มเติมทีมงาน CSR อมตะซิตี้ ชลบุรี พร้อมด้วย บริษัท อูซูอิ อินเตอร์เนชั่นแนลคอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ร่วมกันส่งมอบชุดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มือ 2 พร้อมหนังสือเรียนรู้เสริมสร้างพัฒนาการ ให้แก่ เยาวชนก่อนวัยเรียนและเป็นบุตรหลานของคนในชุมชน ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 3 ศูนย์ ในพื้นที่ตำบลเกาะลอยบางหัก อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี
อ่านเพิ่มเติม📌 อมตะ และสนง. นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี จัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต โครงการ "100 ล้านซีซีโลหิตชาวอมตะเพื่อสภากาชาดไทย" ประจำปี 2567 ครั้งที่ 2 ณ ศูนย์รับบริจาคโลหิต บริเวณถนน financial อมตะซิตี้ ชลบุรี❤️ โดยเชิญชวนพนักงานภายใน สถานประกอบการ และประชาชนทั่วไป มาร่วมบริจาคโลหิตรวมจำนวน 199 คน สามารถบริจาคโลหิตได้จำนวน 174 คน🩸ได้ปริมาณโลหิตสำรองจำนวน 69,600 ซีซี ผู้ที่สนใจสามารถ บริจาคโลหิตได้เป็นประจำ ทุกวัน จันทร์ อังคาร และพฤหัสบดี เวลา 9:00 น ถึง 15:00 น
อ่านเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา ทีมงาน CSR พร้อมด้วยพนักงานบริษัทในกลุ่มอมตะ พนักงาน กนอ. และพนักงานในสถานประกอบการอมตะซิตี้ ชลบุรี ร่วมกิจกรรมโครงการ “หน้าบ้านน่าอยู่ หน้าบ้านน่ามอง” ซึ่งจัดขึ้นโดยเทศบาลตำบลคลองตำหรุ และชุมชนชาวตำบลคลองตำหรุ จ.ชลบุรีโดยร่วมกันทำความสะอาดถนนและทางเท้าสาธารณะบริเวณ ริมถนนเทพรัตน์ ฝั่งตรงข้ามทางเข้านิคมฯ อมตะซิตี้ ชลบุรี รวมระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร ปรับปรุงภูมิทัศน์และเก็บขยะบริเวณสองข้างทาง เพื่อทำความสะอาดให้บริเวณข้างทางมีความสวยงามมากขึ้นนอกจากนี้ ฝ่าย CSR ยังได้สนับสนุนน้ำดื่มสำหรับผู้เข้าร่วมงาน จำนวนกว่า 100 คน อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม