เว็บไซต์ Amata Jobs Online จัดทำขึ้นโดย บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ อมตะ (AMATA) ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย ตั้งอยู่จังหวัดชลบุรี และ ระยอง มีโรงงานประกอบกิจการกว่า 1,100 แห่ง สามารถสร้างอาชีพให้กับคนในประเทศมากกว่า 250,000 อัตรา ถือว่าเป็นตลาดงานใหญ่อันดับต้นๆของประเทศ ซึ่งมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
สร้างเรซูเม่สมัครงานฟรี ให้คุณยืนหนึ่งด้วยการนำเสนอตัวตนที่โดดเด่น เพิ่มโอกาสให้คุณได้งาน สร้างเรซูเม่ของตัวเองขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดาย ทำเรซูเม่ที่สวยงาม และใช้งานได้จริง หมดปัญหากับการสร้างเรซูเม่ที่สวย แต่ส่งไปสมัครงานแล้วแป๊กทุกที พร้อมถึงระบบช่วยกรอกเรซูเม่ ที่จะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจในทุกส่วนของข้อมูลเรซูเม่ และสามารถกรอก ข้อมูลได้ละเอียดที่สุด
สร้างเรซูเม่อมตะซิตี้ ระยอง
อมตะซิตี้ ระยอง
อมตะซิตี้ ชลบุรี
10 เมกะเทรนด์เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรมทั่วโลกจนถึงปี 2025 ประกอบด้วยการใช้งานเทคโนโลยีAI, 5G, หุ่นยนต์ในบ้าน (Smart Home) และผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ (Smart Assistant) ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกคาดการณ์จากรายงานวิสัยทัศน์อุตสาหกรรมทั่วโลก (GIV)1. ใช้ชีวิตกับหุ่นยนต์ (Living with Bots)ความก้าวหน้าด้านวัสดุศาสตร์และการเรียนรู้ของ AI จะช่วยส่งเสริมการใช้งานหุ่นยนต์ในหลากหลายรูปแบบ เช่น ผู้ช่วยในบ้านหรือผู้ช่วยส่วนตัว ทั้งนี้ รายงานGIV คาดการณ์ว่าภายในปี 2025 การใช้งานหุ่นยนต์ตามบ้านทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นถึง14% โดยสามารถแบ่งออกเป็น4 ประเภทหลักNursing Bot จะมาช่วยในเรื่องของสังคมผู้สูงอายุ การดูแลรักษาผู้ป่วยไข้Companion Bot เป็นเพื่อนด้านบันเทิง อยู่เป็นเพื่อนเด็ก ช่วยเลี้ยงลูกButler Bot พวกหุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่น หุ่นยนต์ล้างจาน หุ่นยนต์ทำอาหาร หุ่นยนต์ประเภทนี้เริ่มนำมาใช้แล้วBionic Bot หุ่นยนต์ที่จะเข้ามาอยู่ในร่างกายของเรา เช่น แว่นตาอัจฉริยะ หรืออาจจะเป็นสิ่งที่สวมไปกับขาของเราเพื่อช่วยในเรื่องกระดูก2. ซูเปอร์ไซต์ (Super Sight)การผนวกรวมของเทคโนโลยี 5G, VR/AR, Machine Learning และนวัตกรรมใหม่ๆ จะช่วยให้เราก้าวข้ามขีดจำกัดของระยะทาง นำไปสู่การเปิดมุมมองใหม่ในการมองเห็นโลกทั้งในแง่ของบุคคล ธุรกิจ และวัฒนธรรม รายงานGIV คาดการณ์ว่าบริษัทที่นำเทคโนโลยีAR/VR มาใช้งานจะเพิ่มขึ้นถึง10% ตัวอย่างเช่น การนำโดรนมาตรวจสอบถนนที่ชำรุด การใช้หุ่นยนต์สำรวจท่อใต้ดิน หรือการนำเทคโนโลยีVR/AR มาช่วยสร้างผลงานศิลปะที่สูญหายไป อย่างในกรณีพิพิธภัณฑ์บราซิลที่เกิดไฟไหม้และสูญเสียทรัพยากรทางประวัติศาสตร์ เทคโนโลยีเหล่านี้อาจเรียกว่า'Beyond History' ซึ่งช่วยฟื้นคืนผลงานศิลปะที่สูญหาย3. ซีโรเสิร์ช (Zero Search)เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและเซนเซอร์จะเริ่มมีความสามารถในการคาดการณ์ความต้องการของผู้ใช้งานโดยไม่จำเป็นต้องได้รับคำสั่งล่วงหน้า การค้นหาในอนาคตจะไม่ต้องใช้ปุ่มกด เพราะระบบจะทำงานแบบPersonalize Information เช่น เมื่อผงซักฟอกหรือยาสีฟันหมด เครื่องใช้ไฟฟ้าจะเชื่อมต่อกับระบบและสั่งซื้อสินค้าให้อัตโนมัติ โดยผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าล่วงหน้าไว้ได้โดยไม่ต้องกดปุ่มสั่งเอง เครือข่ายสังคมส่วนบุคคลจะถูกสร้างขึ้นอย่างง่ายดาย และอุตสาหกรรมจะได้รับประโยชน์จากการบำรุงรักษาอุปกรณ์ที่ไม่ต้องค้นหา รายงานGIV คาดการณ์ว่าเจ้าของSmart Device ถึง90% จะใช้ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะภายในอนาคต4. ถนนเฉพาะ (Tailored Streets)ระบบการเดินทางอัจฉริยะจะเชื่อมโยงผู้คน ยานพาหนะ และสาธารณูปโภคเข้าด้วยกัน ทำให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้น และสามารถตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยฟังก์ชันอื่นๆ ที่ช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น รายงานGIV คาดการณ์ว่า15% ของยานพาหนะจะติดตั้งเทคโนโลยีCellular Vehicle-to-Everything (C-V2X) ภายในอนาคต5. ทำงานกับหุ่นยนต์ (Working with Bots)ระบบSmart Automation จะเข้ามาช่วยในงานที่ต้องการความแม่นยำสูง งานซ้ำๆ และงานที่มีความเสี่ยงอันตรายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการผลิต รายงานGIV คาดการณ์ว่าในอนาคต อุตสาหกรรมจะมีหุ่นยนต์จำนวน103 ตัวต่อพนักงานทุกๆ10,000 คน6. ความคิดสร้างสรรค์แต่งเสริม (Augmented Creativity)AI Cloud จะช่วยลดต้นทุนและอุปสรรคในการเข้าถึงการทดลองทางวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และศิลปะ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสแห่งความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้น รายงานGIV คาดการณ์ว่า97% ขององค์กรขนาดใหญ่จะนำ AI มาใช้งาน ในขณะที่ความคิดสร้างสรรค์มักเกิดจากมนุษย์AI สามารถช่วยเสริมแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ หรือที่เรียกว่า'AI-Inspired Creativity' โดยAI จะรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากเพื่อนำไปสู่การสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น การแต่งเพลงหรือการเขียนหนังสือ ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ โดยอาศัยคลังข้อมูลอันกว้างขวาง7. การสื่อสารแบบต่อเนื่อง (Frictionless Communication)การสื่อสารระหว่างบริษัทและลูกค้าจะเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ พร้อมทั้งทลายกำแพงทางภาษา ทำให้ความเข้าใจและความเชื่อใจกลายเป็นรากฐานสำคัญของการสื่อสารในอนาคต รายงานGIV คาดการณ์ว่า86% ขององค์กรจะสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูล (Data) อย่างเต็มประสิทธิภาพ8. เศรษฐกิจการอยู่ร่วมกัน (Symbiotic Economy)บริษัททั่วโลกกำลังนำเทคโนโลยีดิจิทัลและแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์มมาใช้เพื่อสร้างการเข้าถึงที่สอดคล้องกัน ซึ่งจะส่งเสริมความร่วมมือครั้งใหญ่และการแบ่งปันทรัพยากร สร้างEcosystem ระดับโลกที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รายงานGIV คาดการณ์ว่าในอนาคต ทุกบริษัทจะใช้เทคโนโลยีคลาวด์ และ85% ของแอปพลิเคชันทางธุรกิจจะถูกใช้งานบนคลาวด์9. การติดตั้งใช้งาน5G อย่างรวดเร็ว5G ได้เริ่มเข้ามาใช้งานอย่างรวดเร็วกว่าเทคโนโลยีก่อนหน้านี้ รายงานGIV คาดการณ์ว่า58% ของประชากรทั่วโลกจะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 5G ได้10. การกำกับดูแลด้านดิจิทัลทั่วโลก (Global Digital Governances)ความยั่งยืน การจัดการข้อมูลร่วมกัน และหลักการใช้งานข้อมูลจะกลายเป็นประเด็นสำคัญ รายงานGIVคาดการณ์ว่าปริมาณข้อมูลทั่วโลกในปีหนึ่งจะสูงถึง 180ZB (1ZBเท่ากับ 1 ล้านล้านกิกะไบต์ที่มา: THE STANDARD
อ่านเพิ่มเติมการทำงานในยุคปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงขึ้นทั้งด้านธุรกิจและด้านการแข่งขันในตัวของบุคลากรเอง ทำให้ตัวเรานั้นจําเป็นต้องปรับตัวพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การพัฒนาด้านความรู้และความเชี่ยวชาญทางเทคนิคอย่างเดียวคงไม่พอ จําเป็นต้องมีทักษะSoft Skill ที่เป็นทักษะเสริมให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ทั้งการแข่งขันในตลาดแรงงานหรือการแข่งขันของธุรกิจ ตัวเราที่เป็นพนักงานควรที่จะมีความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น มีความอดทน รวมถึงต้องมีการเรียนรู้และพัฒนาตลอดเวลา ทักษะเหล่านี้ ที่เรียกว่าSoft Skills เป็นเหมือนเครื่องมือที่ทำให้เราสามารถปรับตัวจากสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการแก้ไขปัญหา และการทำงานร่วมกับผู้อื่น ทำให้เราเป็นคนที่โดดเด่น มีความก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นในการทำงาน รวมถึงมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย1.Problem Solving Skills: ทักษะการแก้ปัญหาการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหายังคงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานอยู่เสมอ เพราะมันจะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อน ตัดสินใจในเรื่องต่างๆ และทำความเข้าใจปัญหาแบบเป็นขั้นเป็นตอน ทำให้เห็นภาพรวมปัญหาทั้งหมดการระบุปัญหาเริ่มต้นด้วยการระบุปัญหาที่ต้องการแก้ไขก่อน โดยระบุขอบเขตของปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ต้องทำความเข้าใจปัญหาแบบเป็นขั้นตอนและใช้เทคนิคการวิเคราะห์ปัญหาเพื่อช่วยให้เห็นภาพรวมที่ชัดขึ้น กระบวนการแก้ปัญหา สามารถทําได้โดย1.การเก็บและจัดระเบียบข้อมูลรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยการเก็บข้อมูลให้ครบถ้วน และตรงกับวัตถุประสงค์ รวมถึงจัดลำดับและแบ่งกลุ่มข้อมูลให้เป็นระเบียบ เพื่อทำให้ข้อมูลเป็นมีระเบียบและเข้าใจง่าย ทำให้ระบุแนวทางที่ส่งผลต่อปัญหาได้ง่าย2.การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ เช่นPower BI, Google Analytics เพื่อคัดกรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมาวิเคราะห์และตรวจสอบ เพื่อระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และสร้างการนำเสนอข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจปัญหาได้ดี การแก้ไขปัญหาจะแก้ได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้นCreative Thinkingช่วยเพิ่มความสามารถในการแก้ปัญหา ผ่านการสร้างไอเดียที่แปลกใหม่ ไม่จำเจและมองเห็นมุมมองที่แตกต่างออกไปการใช้เทคนิคที่เชื่อมโยงปัญหา1.Design Thinking การใช้กระบวนการDesign Thinking จะทำให้เราเห็นวิธีการใหม่ๆ ในการแก้ปัญหา มองภาพรวมปัญหากว้างขึ้น และช่วยให้คิดอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น2.SWOT Analysis การทำการวิเคราะห์SWOT หาจุดแข็ง จุดเด่น จุดด้อยขององค์กร สําหรับ SWOT Analysis เราจะใช้การหลักการวิเคราะห์โดยSWOT เมื่อต้องการวิเคราห์มุมของธุรกิจเพื่อวางแผนสําหรับทําการตลาดต่อไปในอนาคตการทํางานกันเป็นทีม มีส่วนช่วยลดทอนปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ความร่วมมือกันภายในทีมจะช่วยให้สามารถหาทางออกจากสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น ในทีมที่มีความรู้และทักษะที่หลากหลาย ก็จะยิ่งสามารถนำเสนอและปรับให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ การเข้าใจความต้องการของกันและกันจึงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสร้างความสำเร็จในทีมและองค์กร2.Personal Management Skills: ทักษะการจัดการส่วนบุคคลทักษะการจัดการส่วนบุคคลเป็นทักษะพื้นฐานสำหรับการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องจาก เป็นการจัดการทั้งด้านการทำงาน สุขภาพ และชีวิตประจำวัน หากทำทุกอย่างให้สอดคล้องกัน ก็จะยิ่งทำให้การทำงานได้ราบรื่นไม่เกิดปัญหา สุขภาพกายและสุขภาพจิตมีความสมดุล ส่งผลให้การใช้ชีวิตประจำวันดีขึ้นด้วยการวางแผนและจัดการเวลา (Time Management)1.การตั้งเป้าหมาย กำหนดเป้าหมาย โดยระบุรายละเอียดและกำหนดเวลาให้ชัดเจน2.การวางแผนรายละเอียด ระบุขั้นตอนการดำเนินการ โดยคำนึงถึงข้อจำกัดและทรัพยากรที่องค์กรมี เริ่มจากการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย วางแผนการตลาด ตรวจสอบเพื่อปรับปรุง และวัดผลเพื่อประเมินผลงาน3.การจัดการเวลา ใช้เทคนิคการจัดการเวลา เช่น การแบ่งเวลางานกับเวลาส่วนตัว การจัดลำดับความสำคัญของงาน เพื่อสร้างประสิทธิภาพในการทำงานและอยู่ในเวลาที่กำหนดProject Managementเป็นกระบวนการที่เน้นการวางแผนและควบคุมกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้โครงการดำเนินไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยมีการจัดทำแผน การกำหนดสิ่งที่ต้องทำ การจัดทำทีม และการติดตามความคืบหน้า เพื่อให้โครงการสำเร็จในเวลาที่กำหนดการสร้างความสัมพันธ์ (Agile)เป็นกระบวนการสร้างผลงานในรูปแบบที่มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้าหรือสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงได้เร็ว ซึ่งลักษณะการทํางานแบบAgile ประกอบด้วย1.ความFlexibility หรือความยืดหยุ่นการเข้าใจและปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานของตนเองและการทำงานร่วมกับทีม รับฟังความคิดเห็น และปรับตัวต่อสภาพการทำงานที่เปลี่ยนแปลงในอนาคต2.Customer Focus การให้ความสำคัญและการเข้าใจความต้องการของลูกค้าว่าต้องการอะไร รวมถึงการให้บริการที่ดีที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า การแก้ไขปัญหา และการให้คำแนะนำการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเป็นกระบวนการพัฒนาความรู้ ทักษะ และความเข้าใจอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้จำกัดเพียงการเรียนรู้ในสถาบันการศึกษาเท่านั้น แต่เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นในทุกวันของชีวิต ทั้งจากประสบการณ์การทำงาน การปฏิบัติ การอ่าน การฟัง และการสื่อสารกับผู้อื่นการบริหารจัดการความเครียดเรียนรู้วิธีการตอบสนองต่อความเครียดที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ทำงาน วางแผนและเตรียมตัวเพื่อลดความกดดันที่เกิดขึ้น และเรียนรู้ทักษะที่ช่วยในการควบคุมและจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการจัดลำดับความสำคัญ การพักผ่อน หรือหากิจกรรมต่างๆ ทำบ้าง3. Digital Skills: ทักษะดิจิทัลทักษะนี้เริ่มถูกให้ความสำคัญเมื่อทุกอย่างเข้ามาอยู่ในรูปแบบดิจิทัล การเรียนรู้และพัฒนาทักษะดิจิทัลนี้จะช่วยให้คุณปรับตัวกับสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรียนรู้การใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชั่นที่กำลังนิยม หรือสิ่งที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจ การใช้เครื่องมือและเทคนิค เพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ แบ่งเป็น2 ทักษะได้แก่Digital Literacyทักษะความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ในการทำงาน ได้แก่ การใช้งานโปรแกรมต่างๆ เครื่องมือการสื่อสาร และเทคโนโลยีอื่นที่จำเป็น รวมถึงความปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยี เช่น การอัพเดทซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันทุกครั้งที่มีการเผยแพร่การปรับปรุงหรือแก้ไขปัญหาความปลอดภัย หรือการปิดการใช้งานซอฟต์แวร์หรือระบบที่ไม่ได้ใช้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงของการแฮกข้อมูลData Literacyความสามารถในการเข้าใจข้อมูล เช่น เข้าใจถึงความสำคัญของข้อมูลการขายในการวิเคราะห์ผลการโปรโมท การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล โดยการใช้เครื่องมือวิเคราะห์และการตรวจสอบข้อมูลในแหล่งที่มา และการรู้จักกับประเภทของข้อมูลต่างๆ ที่มี เช่น ข้อมูลยอดขาย ข้อมูลลูกค้า และข้อมูลตลาด และนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการนำเสนอข้อมูลให้กับผู้อื่นในทีมหรือองค์กรแล้วมีวิธีใดบ้างที่เราจะเพิ่มทักษะDigital เหล่านี้ได้1.ทำโปรเจกต์ของตัวเอง จัดทำโปรเจกต์การจัดการ เรื่องงาน การพัฒนาทักษะส่วนตัว การจัดการความรัก ความสัมพันธ์ทั้งเพื่อนและครอบครัว หรือ การทำTime Management การสื่อสารกับผู้อื่น การตั้งเป้าหมาย วางแผน และเลือกทักษะที่ต้องการพัฒนา จากนั้นก็ทำการทดลองและรอดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเพื่อปรับปรุงส่วนที่ยังต้องการการพัฒนา2.อ่านและศึกษาจากแหล่งอื่นๆ จากการอ่านหนังสือ บทความจากเว็บไซต์ กิจกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือ Community บนโลกออนไลน์ เพื่อเพิ่มความรู้และทักษะที่ต้องการ เช่นที่มา: STEPS Academy
อ่านเพิ่มเติมทีมงาน CSR อมตะ “จัดคาราวานอมตะสร้างรอยยิ้ม” นำหน่วยงานพันธมิตรออกบูธให้บริการขั้นพื้นฐานแก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการลดค่าครองชีพในครัวเรือน ณ อบต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรีโดยบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์ฟรี กว่า 100 คัน, บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า, บริการอาหารกลางวัน, บริการตัดผมชาย-หญิง, บูธเกมสันทนาการเกี่ยวกับสัญญาณจราจรที่น่ารู้นอกจากนี้ ยังมีพันธมิตรร่วมมอบความสุขสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง บริการเครื่องดื่มเกล็ดหิมะ, บริษัท คิว-คอน อีสเทอร์น จำกัดร่วมออกบูธกิจกรรมเกมสันทนาการ, การประปา บ่อวิน และดูโฮมบ่อวิน มาร่วมออกบูธกิจกรรมเกมสันทนาการโดยทุกกิจกรรม ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย สร้างรอยยิ้ม และความสุขให้แก่ชุมชนที่เข้ามาใช้บริการมากกว่า 300 คน
อ่านเพิ่มเติมวันเวลาผ่านไปอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีก็พัฒนาแบบไม่หยุดยั้ง ส่งผลต่อความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นอันมาก แต่ทว่าในกระบวนการทำงานจะใช้แต่เทคโนโลยีเป็นกลไกหลักอย่างเดียวคงเป็นไปไม่ได้ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันกับมนุษย์ด้วยถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าขึ้นมาก แต่ยังต้องอาศัยมนุษย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ดังที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) เปิดเผยรายงานข่าวจากWorld Economic Forum เกี่ยวกับอาชีพด้านเทคโนโลยีที่จะสนองต่อความต้องการของตลาดในอนาคตจนถึงปี 2570 ว่ามีอาชีพที่โดดเด่นและมาแรง หากใครที่มีความถนัดหรือศึกษาเกี่ยวกับ10 อาชีพนี้มา มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่างแน่นอน1.ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI and Machine Learning Specialists)เน้นการออกแบบและพัฒนาAlgorithm ระบบAI ให้ระบบสามารถทำงานและเรียนรู้ได้ด้วยตนเองโดยสามารถใช้ในการประกอบอาชีพด้านต่าง ๆ เช่น การขนส่ง การผลิต การแพทย์ เป็นต้น2.ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน (Sustainability Specialists)เน้นการวางแผนในเรื่องการบริหารธุรกิจ การจัดการให้สอดคล้องกับทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจที่มองเห็นและให้ความสำคัญกับความยั่งยืน3.ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence Analysts)เน้นการพัฒนาระบบและเครื่องมือที่สามารถจัดการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจให้เข้าใจได้อย่างรวดเร็วเพื่อการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ โดยหน้าที่หลักคือ รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์และค้นคว้าความต้องการทางธุรกิจ4.นักวิเคราะห์ความปลอดภัยข้อมูล (Information Security Analysts)เน้นการดูแลความปลอดภัยของข้อมูล วิเคราะห์โครงสร้าง ออกแบบระบบที่ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลภายในได้5.วิศวกรเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech Engineers)เน้นการคาดการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตเกี่ยวกับธุรกิจและการเงิน รวมถึงการพัฒนาระบบเพื่อรองรับผู้ใช้จำนวนมาก6.นักวิเคราะห์ข้อมูล นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล(Data Analysts and Scientists)นักวิเคราะห์ข้อมูล เน้นการทำงานเกี่ยวกับชุดข้อมูลที่มีโครงสร้างเพื่อการแก้ปัญหาธุรกิจที่จับต้องได้โดยใช้เครื่องมือต่าง ๆนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล เน้นการจัดการกับสิ่งใหม่โดยใช้เทคนิคชั้นสูงเพื่อคาดการณ์อนาคต อาจมีการสร้างAlgorithm ในการเรียนรู้ด้วยตนเอง7.วิศวกรหุ่นยนต์เน้นการดูแลระบบหุ่นยนต์ พัฒนาโปรแกรม สร้างหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติให้ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม โดยเริ่มตั้งแต่ออกแบบโครงสร้างและแก้ปัญหา โดยต้องทำงานร่วมกับงานวิศวกรรมทั่วไป พร้อมควบคู่กับวิศวกรรมเชิงธุรกิจด้วย8.ผู้เชี่ยวชาญด้าน Big Data (Big Data Specialists)เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลให้ตรงกลุ่มเป้าหมายด้วยปริมาณมากมายของข้อมูล ในหลายธุรกิจจึงจำเป็นต้องมีคนทำหน้าที่นี้เพื่อนำข้อมูลขององค์กรมาวิเคราะห์เชิงลึก โดยการใช้ฟังก์ชันเครื่องมือต่าง ๆ และเทคโนโลยีมาใช้ประกอบกัน รวมทั้งการหาวิธีรับมือและการดูแลระบบความปลอดภัยของข้อมูลเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล9.ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรกลการเกษตร (Agricultural Equipment Operators)ในด้านนี้จะต้องศึกษา วิเคราะห์ หรือวิจัย เพื่อวางแผนการใช้และการวิจัยและพัฒนาเครื่องมือเครื่องจักรกลเกษตรที่ใช้ในการผลิตพืช ทดสอบ ปรับปรุง ดัดแปลง พัฒนาประสิทธิภาพของเครื่องจักรกลเกษตรให้เหมาะสมกับการใช้งานและการผลิต10.ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล (Digital Transformation Specialists)ในด้านนี้จะต้องนำเทคโนโลยีที่มีอยู่มาสร้างสิ่งใหม่ และเปลี่ยนแปลงสิ่งเก่าให้เหมาะสมกับธุรกิจในยุคดิจิทัลเพื่อให้พร้อมกับการเติบโตและยั่งยืนในยุคดิจิทัลที่มา : www.sentangsedtee.com
อ่านเพิ่มเติมบริษัท อมตะซิตี้ ระยอง จำกัด ร่วมกับสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง, บริษัท อมตะ ยู จำกัด, บริษัท อมตะ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด และหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้บางละมุง ร่วมกันจัด“โครงการความร่วมมือเพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง” บริเวณป่าสงวนแห่งชาติบางละมุง หมู่ 1 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งถือเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำคลองภูไทร ที่ไหลผ่านนิคมฯ เพื่อการสร้างสังคมอุตสาหกรรมที่อยู่ร่วมกันกับชุมชนอย่างผาสุก เพื่อขยายขอบเขตการพัฒนาจากพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสู่ชุมชนโดยรอบ ภายใต้หลักการทำงานอย่างมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วนมีพนักงานจิตอาสาและชุมชนกว่า 250 คน ร่วมกันปลูกต้นไม้พื้นถิ่น เช่น มะขาม ขี้เหล็ก มะค่า เสลา พิกุล เป็นต้น จำนวน 1,000 ต้นตามแนวทางการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ หรือ (Eco Industrial Town) อมตะ เริ่มปลูกป่าชุมชน ตั้งแต่ปี 2563 รวมปลูกต้นไม้ชุมชนแล้วกว่า 7,000 ต้น
อ่านเพิ่มเติมอมตะซิตี้ ระยอง จัด “โครงการเยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อมและประกวดวาดภาพสิ่งดีๆ ที่อมตะ ปี 2” โดยมีตัวแทนนักเรียนจากรอบนิคมฯ จำนวน 15 แห่ง (โรงเรียนละ 2 คน) จำนวน 30 คนเข้าร่วมกิจกรรม เข้าเยี่ยมชมการดำเนินการด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม และพื้นที่สีเขียวของนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ณ บ่อบำบัดน้ำเสียส่วนกลางแห่งที่ 2 เพื่อให้น้อง ๆ นักเรียนได้เรียนรู้ถึงการจัดการระบบบำบัดน้ำเพื่อลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมของนิคมฯและร่วมประกวดวาดภาพสิ่งดีๆ ที่อมตะ ปี 2 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้ทักษะจินตนาการ การสังเกต เรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่ได้เข้ามาเยี่ยมชมนิคมฯ มาสร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะ วาดลงบนถุงผ้าโดยใช้สีน้ำอะครีลีค ณ อมตคาสเซิล โดยมีทุนการศึกษาให้กับน้องๆ ที่ได้รับรางวัล รวม 8,500 บาท
อ่านเพิ่มเติมอมตะซิตี้ ระยอง ร่วมกับ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 จ.ชลบุรี สภากาชาดไทย จัดกิจกรรม “100 ล้านซีซี โลหิตชาวอมตะเพื่อสภากาชาดไทย ครั้งที่ 37” ขึ้น (ครั้งที่ 5 ปี 2567) เพื่อนำโลหิตไปช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป โดยมีฮีโร่ร่วมบริจาคโลหิตได้กว่า 124 คน (จากผู้มาบริจาค 163 คน) รวมปริมาณโลหิต 55,800 ซีซี ณ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ชลบุรีทั้งนี้ อมตะได้ขอบคุณเหล่า #AmataBloodHero ด้วยการมอบหนังสือคุณวิกรมและสนับสนุนข้าวสารผลิตภัณฑ์จากชุมชนบ้านเกาะกก จ.ระยอง ให้เป็นของที่ระลึก รวมถึงจัดกิจกรรมพิเศษสะสมแต้มตั้งแต่ปี 2565 สำหรับผู้ที่บริจาคครบ 4, 8 และ 12 ครั้ง จะได้รับของที่ระลึกพิเศษ เพื่อเป็นการเชิญชวนเหล่าฮีโร่ให้บริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ได้รับของที่ระลึกพิเศษแล้วกว่า 30 คนสำหรับใครที่พลาดกิจกรรมในครั้งนี้ สามารถเข้าร่วมเป็นฮีโร่ง่ายๆ ได้อีกครั้ง ในวันที่ 3 และ 18 ตุลาคม 2567 นี้
อ่านเพิ่มเติมอมตะซิตี้ ระยอง ร่วมกับบริษัท โตไค ริคะ (ไทยแลนด์) จำกัด จัดโครงการ Forest for Life ปลูกป่า ปลูกชีวิต ครั้งที่ 5 ขึ้น โดยมีพนักงานกว่า 500 คน ร่วมกันปลูกต้นไม้จำนวนกว่า 5,800 ต้น (ครั้งที่ 1-4 ปลูกรวมกันแล้ว 23,200 ต้น)Forest for Life เป็นโครงการต่อเนื่องที่มุ่งหวังสร้างพื้นที่สีเขียวและความสมบูรณ์ของธรรมชาติภายในนิคมฯ และเพื่อร่วมกันมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และส่งต่อโลกสีเขียวแก่เยาวชนในรุ่นต่อๆ ไป ณ บริเวณเขาตาแป๊ก นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง
อ่านเพิ่มเติม